REAL HOME CARE
1232
TH
/
EN
REAL HOME CARE
1232
TH
/
EN
Single House
Single House Viranya Rangsit - Wongwaen
Single House Vivaldi Bangna
Single House Viranya Bangna - Suvarnabhumi
Semi-Detached House
Semi detached Sense Bangna - Suvarnabhumi
Town Home
Townhome Stories Rangsit - Wongwaen
Townhome Stories Bangna - Suvarnabhumi
Townhome PLEX Onnut - Wongwaen
Condominium
Condominium A Space Mega 2
Condominium ARLO Sukhumvit 105 - Lasalle
Condominium THE STAGE made by me Ratchada - Huaikhwang
Condominium A Space Mega
Condominium THE STAGE Mindscape RATCHADA - HUAI KHWANG
Condominium AESTIQ Thonglor
Blog
Company Profile
Contact Us
Top
REAL ASSET
BLOG
News
Lifestyle
Event
Trip & Trick
News
โปรเปรี้ยว....ลดให้เข็ด!! ลดสูงสุด 5 ล้านบาท* ครั้งเดียวส่งท้ายปีกับโครงการบ้านและคอนโด...จาก REAL ASSET
DETAIL
Lifestyle
คอนโดบางนา ติดเมกา บางนา 0 เมตร กิน เที่ยว ช้อป
DETAIL
Event
REAL ASSET เปิดบ้านต้อนรับ Blogger ชม 'ARLO SUKHUMVIT 105 - LASALLE' 31 ก.ค. 67
DETAIL
Tip&trick
แนะนำขั้นตอนการซื้อบ้านเดี่ยวบางนาผ่านธนาคาร
DETAIL
News
News
DETAIL
0
1884
HOW TO BE A SUCCESSFUL REAL ESTATE INVESTOR
DETAIL
0
1095
Choosing Art for Your Home
DETAIL
0
11285
10 Best Bangkok’s Cafés in the Garden
DETAIL
0
5525
ตลาดต้นไม้ใกล้บ้านสำหรับคนรักสวน
DETAIL
0
1214
การตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างคอนโดมิเนียม โครงการ เดอะ สเตจ เตาปูน - อินเตอร์เชนจ์
DETAIL
0
1319
คุณสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้ารับรางวัล APEA 2017 สาขา Property Development
0
1884
HOW TO BE A SUCCESSFUL REAL ESTATE INVESTOR
การลงทุนในอสังหาริมทรัพย์กำลังเป็นทางเลือกที่หอมหวานสำหรับคนรุ่นใหม่ เศรษฐีรุ่นใหม่จำนวนไม่น้อยร่ำรวยมาจากการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เรามาดูกันว่า ขั้นตอนที่นักลงทุนผู้ประสบความสำเร็จทำเหมือน ๆ กันมีอะไรบ้าง 1. วางแผนให้ดีเยี่ยม – ทุกการลงทุนต้องการแผนที่ดี หลายคนพลาดเพียงเพราะมีเงินเย็นเต็มกระเป๋า แต่ดันลงทุนโดยปราศจากการวางแผนที่รัดกุม ทำให้เงินเย็นที่ควรจะงอกเงย กลายเป็นเงินร้อนและหลุดมือไปอย่างน่าเสียดาย การวางแผนลงทุนในอสังหาก็ไม่ต่างกับการวางแผนธุรกิจทั่วไป จึงต้องมีการกำหนดเป้าหมาย วิเคราะห์ความเป็นไปได้ ศึกษาทุกอย่างที่เกี่ยวข้อง และวางกลยุทธ์อย่างเหมาะสมทั้งระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว 2. ศึกษาตลาดอย่างจริงจัง – ตลาดอสังหาริมทรัพย์แต่ละประเภทหรือแต่ละระดับมีเงื่อนไขการลงทุนที่แตกต่างกัน การที่จะเอาชนะตลาดได้ ก็ต้องศึกษารายละเอียดเชิงลึกของตลาดที่ตัวเองลงทุนอยู่ให้เข้าใจทุกองศา จนสามารถคาดเดาทิศทาง และหาโอกาสทำกำไรได้อย่างเป็นรูปธรรม เช่น พฤติกรรมของผู้บริโภค อัตราการเช่า หรือการซื้อขาย อัตราดอกเบี้ย ปัจจัยบวกและลบของตลาดนั้น ๆ 3. ซื่อสัตย์ตลอดกาล – ไม่ว่าคุณจะเป็นนักลงทุนหรือนักธุรกิจประเภทใด เครดิตเป็นเรื่องสำคัญที่สุด โดยเฉพาะเมื่อสินค้าของคุณคืออสังหาริมทรัพย์ที่มีอายุผลิตภัณฑ์ยาวนาน ชื่อเสียงความไว้ใจในผลิตภัณฑ์และตัวผู้ให้เช่าหรือผู้ขายก็ยิ่งต้องมั่นคงยาวนานตามไปด้วย ความซื่อสัตย์อาจไม่นำพากำไรง่าย ๆ มาให้คุณในระยะสั้น แต่จะนำพาความสำเร็จที่ยั่งยืนมาให้อย่างต่อเนื่อง 4. ศึกษาความรู้ให้เชี่ยวชาญเฉพาะทางแบบเจาะลึก – หากคุณเลือกดีแล้วว่า จะลงทุนในตลาดแบบไหน ก็ควรจะศึกษาข้อมูลรายละเอียดในตลาดของคุณแบบเจาะลึกที่สุดไปเลย เช่น คุณมีความสนใจและมีความถนัดในตลาดอสังหาระดับลักชัวรี ก็ควรหาความรู้ระดับลึกให้เกิดเป็นความเชี่ยวชาญ เช่น รู้ว่าแหล่งลูกค้าจะมาจากที่ไหน การตัดสินใจขึ้นอยู่กับปัจจัยใด มีช่องทางที่จะรู้ได้ก่อนใครเมื่อมีโครงการที่น่าลงทุนเข้ามาในตลาด รู้ทำเลศักยภาพในอนาคต รู้วิธีสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินทรัพย์ที่คุณลงทุน และรู้ระเบียบกฎหมายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง 5. แบ่งผลตอบแทนที่เหมาะสมให้กับผู้ที่นำประโยชน์มาให้ หรือผู้ที่ช่วยแนะนำ – ในการลงทุนซื้ออสังหาริมทรัพย์เพื่อขายหรือปล่อยเช่า แม้จะมีช่องทางอิเลคโทรนิคส์ที่ทันสมัยในการนำเสนอสินค้าของคุณเข้าสู่ตลาด มีช่องทางไฮเทคมากมายที่คุณจะได้รับแจ้งว่า มีโครงการใหม่ ๆ ทำเลใดที่น่าลงทุนเพิ่ม แต่ช่องทางของการมีบุคคล (ที่น่าเชื่อถือ) มาแนะนำหรือบอกต่อแบบปากต่อปากนั้นก็ยังมีศักยภาพสูงสุดเสมอ และคุณก็ไม่ควรมองข้ามการให้ค่าตอบแทนที่เหมาะสมสำหรับผู้ที่นำผลกำไรดี ๆ มาให้คุณ และมองว่าเป็นส่วนหนึ่งของการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด 6. ศึกษาหาความรู้ไม่หยุดนิ่ง – นักลงทุนที่ฉลาดต้องติดตามข้อมูลข่าวสารที่เกี่ยวข้องทั้งทางตรงและทางอ้อมกับสินทรัพย์ที่ลงทุนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ แนวโน้มหรือปัจจัยต่าง ๆ ที่เป็นพื้นฐานของธุรกิจ เพื่อให้พร้อมปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบหรือทิศทางเศรษฐกิจตลอดเวลา รวมถึงความรู้ในแง่ที่เกี่ยวกับรสนิยม ความชอบที่เปลี่ยนไป หรือปัจจัยในการตัดสินใจบริโภคของลูกค้า 7. เข้าใจความเสี่ยงที่ต้องรับมือ – โดยทั่วไปถ้าคุณลงทุนในหุ้นหรือกองทุน ก็จะมีคำเตือนให้ระวังความเสี่ยง แต่ไม่มีคำเตือนสำหรับการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่ความจริงก็มีความเสี่ยงมากมายพอกัน หากคุณคิดจะลงทุนในอสังหา คุณก็ต้องศึกษาให้ดีว่า อสังหาโดยรวม และอสังหาที่คุณซื้อเพื่อปล่อยขายหรือเช่านั้น จะมีความเสี่ยงใดบ้าง หากประเมินแล้วว่า เป็นความเสี่ยงที่คุณรับได้ และมีแผนที่ดีในการรับมือกับความเสี่ยงนั้น ก็ลุยได้เต็มที่ แต่ถ้าลงทุนเพราะซื้อตามเพื่อน ไม่ได้คิดอะไรมาก คุณอาจต้องช็อคกับความเสี่ยงในแบบที่คุณไม่ได้คิดไว้เหมือนกัน 8. มีระบบบัญชีที่ดีเยี่ยม – มีหลายคนในโลกนี้ที่ขายอะไรได้เยอะแยะ มีเงินผ่านมือมากมาย แต่พอวัดระดับความมั่งคั่งหรือดูผลประกอบการกันจริง ๆ แล้วปรากฎว่า ไม่ยักรวย เพราะไม่ได้มีระบบบัญชีและการเงินที่รัดกุม ถ้าคุณเริ่มต้นจะเป็นนักลงทุนอสังหาระดับเล็ก ๆ ก็ต้องรู้จักศึกษาข้อมูลเรื่องบัญชี - การเงินให้เข้าใจด้วยตัวเอง เพราะมีรายการค่าใช้จ่ายมากมายที่คุณไม่เข้าใจแฝงอยู่และทำให้เงินได้ที่คุณคิดว่าควรจะเป็นกำไรเยอะแยะนั้นเหลือแค่นิดเดียว เช่น ค่าเสื่อม ค่าส่วนกลาง ค่าธรรมเนียม ค่าซ่อมแซม ภาษี รวมไปถึงค่าใช้จ่ายจิปาถะอื่น ๆ และถ้าพอร์ตของคุณโตมาก ๆ จนต้องหาผู้ช่วยเก่ง ๆ มาดูบัญชีหลังบ้าน ก็อย่าลืมบวกค่าใช้จ่ายเหล่านี้ไปในต้นทุนของคุณด้วย 9. ใช้ทีมงานหรือผู้ช่วยระดับมืออาชีพ – การลงทุนในอสังหาดูเผิน ๆ เหมือนเป็นเรื่องง่าย หลายคนคิดแค่ดูว่ามีโครงการไหนดี ก็รีบไปซื้อไปจองแล้วก็มาประกาศปล่อยขาย - เช่าในราคาสูงกว่าที่ซื้อมา ทำกำไรสบาย ๆ ไม่เห็นต้องพึ่งใคร แต่ในความเป็นจริง มีรายละเอียดหลายขั้นตอนที่ต้องให้มืออาชีพมาดูแล เช่น ตัวแทนขาย นักกฎหมาย ผู้ออกแบบหรือผู้รับเหมาในกรณีที่คุณต้องปรับปรุงหรือตกแต่งสถานที่ วิธีที่ดีที่สุดที่จะไม่ปวดหัวคือการใช้ผู้ที่มีความสามารถจริง ๆ และคุณควรบวกค่าความสามารถที่เหมาะสมนั้นลงไปในต้นทุนของคุณด้วย 10. สร้างเครือข่ายพันธมิตรที่ส่งเสริมซึ่งกันและกัน – ก๊วนหรือเครือข่ายเป็นสิ่งสำคัญ แม้แต่นักธุรกิจที่ขายของเหมือนกันก็ยังต้องมาจับมือเป็นสมาคมเพื่อเกื้อกูลกัน นักลงทุนอสังหาอย่างคุณก็ต้องการก๊วนพันธมิตรดี ๆ ที่คอยช่วยกันในการพัฒนาความรู้และสนับสนุน เครือข่ายที่ดีไม่เพียงแบ่งปันความรู้ที่ดีแต่ยังอาจช่วยชี้นำทิศที่ดีให้กับคุณได้ด้วย เช่น รู้ว่าทำเลใดมีโอกาส รู้ทันปัจจัยเสี่ยง ฯลฯ หากคุณคิดจะเริ่มลงทุนในอสังหา ไม่ว่าจะขนาดเล็กหรือใหญ่ ก็พิจารณาลองทำตามขั้นตอนเหล่านี้ดู แล้วจะพบว่า ความสำเร็จนั้นไม่ใช่เรื่องเหลือเชื่อ
0
1095
Choosing Art for Your Home
โดยทั่วไปแล้วการแต่งบ้านด้วยงานศิลปะเป็นเรื่องของรสนิยมความชอบส่วนบุคคลล้วน ๆ แต่หากคุณต้องการเลือกสรรงานศิลป์ชิ้นเอกมาประดับตกแต่งบ้าน ให้มีทั้งความสวยงามจรรโลงใจ ได้เพิ่มมูลค่าและคุณค่าให้กับพื้นที่จัดวาง และได้ทั้งชิ้นงานศิลปะที่มูลค่าเพิ่มในตัวเอง นอกเหนือจากเรื่องรสนิยมแล้วก็ต้องมีความรู้มาประกอบด้วย 1. ความชอบและสัญชาตญาณ – ไม่ว่าคุณจะมีเงินมากหรือน้อย การมีสติเตือนตนเสมอว่า เลือกชิ้นงานที่คุณชอบจริง ๆ ในงบประมาณที่คุณซื้อได้คือสิ่งที่ดีที่สุด ถ้าคุณเจองานศิลป์บางชิ้นที่ชอบมากแต่เกินงบ คุณควรยอมเสียเวลาหาชิ้นที่คุณชอบพอๆกันในงบที่คุณที่ซื้อได้ แทนการเลือกงานราคาถูก ๆ ที่คุณซื้อได้ แต่ไม่ชอบมาก หรือซื้อตามที่คนอื่นบอกว่าดีแต่คุณไม่ได้ชอบมันจริง ๆ เพราะถ้าคุณลงทุนกับการซื้อศิลปะที่คุณไม่ได้รับความพึงพอใจ คุณก็ ‘ขาดทุน’ ทันทีที่ซื้อ จงเลือกด้วยอารมณ์ สัญชาตญาณ แต่ต่อรองราคาด้วยสมอง อย่าเลือกด้วยสมองและต่อรองราคาด้วยอารมณ์ 2. สเกลที่ใช่ – พยายามเลือกสเกลงานที่เหมาะกับขนาดที่ติดตั้งในบ้านของคุณ บ่อยครั้งที่ความงามของงานศิลปะแต่ละชิ้นขึ้นอยู่กับระยะของการมองเห็นหรือชื่นชม งานบางชิ้นเป็นงานสเกลใหญ่ต้องการพื้นที่กว้างหรือเพดานที่สูงเป็นพิเศษเพื่อการติดตั้งและชมจากระยะไกล หากนำมาติดตั้งในพื้นที่เล็กจะดูไม่สวยงามเท่าที่ควร และในทางกลับกัน งานสเกลเล็กที่มีรายละเอียดเหมาะสำหรับชมในระยะใกล้ ก็ย่อมไม่เหมาะกับพื้นที่ขนาดใหญ่เกินไป ก่อนจะเทใจให้กับงานศิลป์ชิ้นใดอย่าลืมถามใจดูก่อนว่ามีที่วางหรือเปล่า เว้นแต่คุณจะสามารถซื้อบ้านหลังใหม่ได้เพื่อติดงานที่ชอบ ก็ไม่ว่ากัน 3. สไตล์ที่ลงตัว – ความเข้ากันได้เป็นเหตุผลหนึ่งของความงาม ซึ่งความเข้ากันได้นี้อาจจะมาจากความขัดแย้งหรือกลมกลืนก็แล้วแต่รสนิยมของผู้เลือกและผู้ชม แต่ทางที่ดี ก็ควรเลือกชิ้นงานที่มีสีสัน รูปแบบ และสไตล์ เข้ากับลักษณะของบ้านหรือพื้นที่ติดตั้งเอาไว้เป็นพื้นฐาน เว้นเสียแต่ว่า คุณจะหลงใหลในงานชิ้นนั้นมาก และรู้สึกว่าวางยังไงก็ลงตัว ก็เป็นความสุขของคุณ เพราะเป็นบ้านคุณเอง ใครจะว่าอย่างไรได้ 4. อุปกรณ์เสริมเพิ่มคุณค่า – งานศิลปะบางชิ้นจะมีความสมบูรณ์แบบเมื่อมาพร้อมกรอบและอุปกรณ์สำหรับการติดตั้งที่เข้ากันได้ดีเท่านั้น จึงให้ความสำคัญกับการเลือกรูปแบบกรอบ (สำหรับงานจิตรกรรม) และเทคนิคการติดตั้ง (สำหรับงานประติมากรรม) ที่ส่งเสริมคุณค่าของงานและเข้ากับบ้านด้วย 5. ของแท้ดีที่สุด – หากคุณไม่ได้ตั้งใจซื้องานที่ผลิตซ้ำของศิลปินดัง ๆ ระดับโลก มาจำลองไว้ในบ้านด้วยความตั้งใจจะระลึกถึงศิลปินที่คุณชื่นชอบ (โดยรู้ดีอยู่แล้วว่าเป็นของจำลองหรือเลียนแบบ) ในการซื้อศิลปะมาชื่นชมหรือลงทุนไม่ว่ากรณีใด ๆ ต้องเลือกซื้อเฉพาะงานที่เป็นของแท้ หรือ Limited Edition เท่านั้น จึงจะถือว่าสมบูรณ์ทั้งคุณค่าและมูลค่า เพราะนอกจากคุณจะได้ดื่มด่ำกับความออริจินัลของชิ้นงานแล้ว การเก็บงานศิลป์ที่เป็นของแท้ผ่านระยะเวลาไปนาน ๆ จะเพิ่มมูลค่าในตัวเอง ในขณะที่ของปลอมนั้นไม่มีราคา 6. เลือกศิลปิน – ถ้าคุณตั้งใจจะสะสมงานศิลปะที่มีคุณค่าทางจิตใจและมูลค่าไปพร้อมๆกับการตกแต่งบ้าน ควรศึกษาข้อมูลของศิลปินที่คุณชอบให้ละเอียด แล้วติดตามซื้องานเด่น ๆ ของศิลปินคนนั้น จะทำให้ทุกชิ้นงานของคุณมีเรื่องราวของผู้สร้างสรรค์การันตีอยู่เบื้องหลัง แม้จะเป็นศิลปินไม่ดังก็ไม่เป็นไร 7. มองหาช้างเผือกและเพชรในตม – แหล่งหาซื้องานศิลปะชิ้นงานในราคาไม่แพง และมีโอกาสจะเพิ่มมูลค่าในระยะยาวได้มากคือแหล่งผลิตงานของบรรดาศิลปินรุ่นใหม่ จากการเยี่ยมชมสถาบันการศึกษาด้านศิลปะและซื้องานของศิลปินที่มีผลงานโดดเด่นแม้จะยังไม่มีชื่อเสียงนัก โดยนอกจากจะเลือกคนที่ทำงานในแบบที่เราชอบแล้ว ก็เลือกคนที่มีผลงานต่อเนื่องสม่ำเสมอ และมีพลังในการสร้างสรรค์ชัดเจนซึ่งดูไม่ยาก หรือถ้าไปซื้องานนักศึกษาก็ถามอาจารย์ผู้สอนก็ได้ ว่าคนไหนที่ฝีมือดีเป็นพิเศษ 8. ล่ารางวัล – ถ้าคุณเป็นทั้งคนรักศิลปะและนักลงทุนในศิลปะ การติดตามข่าวสารการประกวดและซื้องานที่ได้รางวัล นอกจากคุณจะมีโอกาสสูงในการได้เป็นเจ้าของงานชิ้นเอกจากศิลปินเก่ง ๆ อนาคตไกลแล้ว งานของศิลปินเหล่านั้นจะมีโอกาสในการเพิ่มมูลค่าจากชื่อเสียงและรางวัลจากการประกวดสำคัญ ๆ และถ้าศิลปินประคองชื่อเสียงได้ดีจนถึงบั้นปลายของชีวิต เมื่อศิลปินจากไปแล้วงานนั้นก็จะยิ่งเพิ่มค่าอีกหลายเท่า 9. หาให้ถูกแหล่ง จะได้ของดีราคาดี – งานศิลปะชั้นดีไม่จำเป็นต้องมีราคาสูงลิบลิ่วเสมอไปหากซื้อได้ถูกที่ การเลือกซื้อจากศิลปินโดยตรงจะช่วยลดค่าใช้จ่ายของแนวหน้าหรือแกลเลอรี แต่ถ้าคุณไม่รู้จักศิลปินโดยตรง ก็ควรเลือกจากแหล่งค้างานศิลปะที่เชื่อถือได้ว่าเป็นร้านที่ขายชิ้นงานของแท้ รวมถึงการไปประมูลหรือซื้อในงานนิทรรศการ ด้วยเทคนิคที่ว่ามานี้ คงจะทำให้คุณมั่นใจมากขึ้น กับการเลือกสรรงานศิลปะสวย ๆ มาตกแต่งบ้านและสะสมในฐานะที่เป็นการลงทุนระยะยาวที่มีรสนิยมและมีผลตอบแทนน่าสนใจอย่างหนึ่ง
0
11285
10 Best Bangkok’s Cafés in the Garden
ยุคนี้เป็นยุคที่เราสามารถทำงานหรือพักผ่อนอย่างมีความสุขได้ในบรรยากาศที่ดี แวดล้อมไปด้วยสิ่งสวยงาม อาหารอร่อย เครื่องดื่มรสเลิศ บริการเยี่ยม โดยไม่ต้องลงทุนลงแรงเยอะ เพราะมีคาเฟ่เก๋ ๆ เปิดรอรับเราอยู่มากมาย แต่สำหรับใครที่หลงรักคาเฟ่ในบรรยากาศธรรมชาติกลางสวนสวย ย่อมหมายถึงสิ่งที่พิเศษกว่าคาเฟ่ธรรมดา ๆ เรามี 10 คาเฟ่ที่คุณต้องกรี๊ดมาฝากกันค่ะ 1. The 66 Cottage - สุดยอดค่าเฟที่เป็นโอเอซิสแสนร่มรื่นใกล้สถานีรถไฟฟ้าอุดมสุข มีบริการอาหาร เบเกอรี่ และเครื่องดื่ม ให้เพลิดเพลินเต็มที่ในสวนสวย เหมาะที่จะย่องมาแอบนั่งเพลิน ๆ ช่วงบ่ายถึงเย็น ในบริเวณร้านมีร้านสไตล์ออร์แกนิคและเปิดเป็นตลาดนัดออร์แกนิคในวันสุดสัปดาห์ ที่ตั้ง : ถ.สุขุมวิท ซอย 66 ขับตรงเข้าไปท้ายซอยจะเห็นร้านอยู่ขวามือ มีที่จอดรถสะดวกสบาย ราคา : 70 - 150 บาท เปิดบริการ : ทุกวัน 10.00 - 19.00 เบอร์โทร : 086 - 895 - 0202 2. บ้านก้ามปู ทรอปิคอล แกลเลอรี แอนด์ คาเฟ (Bankampu Tropical Gallery&Cafe) - คนรักสวนแบบจริงจังต้องมาร้านนี้ เพราะนอกจากจะเป็นร้านเก๋ๆ สำหรับกินดื่ม นั่งพักผ่อนหย่อนใจในบรรยากาศทรอปิคัลแล้ว ยังเป็นแหล่งความรู้เกี่ยวกับสวนเมืองร้อน ที่รวมพันธุ์ไม้ไว้ให้คนรักธรรมชาติชมและช้อปกลับไปปลูกที่บ้านได้ด้วย ที่ตั้ง : 5/61 ซอยนวมินทร์ 111 แขวงนวมินทร์ เขตบึงกุ่ม (ถ้าขับรถเข้าทางฝั่งถนนเลียบทางด่วนจะใกล้กว่า) ราคา : 80 - 200 บาท เปิดบริการ : ทุกวัน 9.00 - 18.30 เบอร์โทร : 02 - 946 - 6016 3. ไล - บรารี - อาจจะไม่ใช่ร้านที่จะมาเหยียดแข้งเหยียดขาชิล ๆ เรื่อยเปื่อย เพราะพื้นที่ร้านข้างในค่อนข้างจำกัด แต่เรื่องความเท่ของการออกแบบ และบรรยากาศของสวนนั้นโดดเด่นไม่เบา บริการอาหารว่าง เครื่องดื่ม ทั้งชากาแฟและเมนูสมูทตี้ต่าง ๆ เหมาะสำหรับหนุ่มสาวฮิปสเตอร์หรือฟรีแลนซ์ที่พกแล็ปท็อปหรือแท็บเล็ตมานั่งเล่นหาไอเดีย คิดงานเพลิน ๆ เลือกนั่งได้ทั้งในร้านและลานใต้ร่มไม้หน้าร้าน ที่ตั้ง : ถ. สุขุมวิท ซอย 46 เมื่อเข้าซอยจากถนนสุขุมวิทให้เลี้ยวเข้าซอยแยกด้านซ้ายทันที ร้านจะอยู่ทางขวามือ ในโครงการมีที่จอดรถ หรือลงรถไฟฟ้าสถานีพระโขนงแล้วเดินเข้าซอย 46 แค่นิดเดียวก็สะดวกดี ราคา : 135 - 200 บาท เว็บไซต์ : www.facebook.com/librarycafe/ 4. The Garden of Dinsor Palace - ร้านสวยในบรรยากาศหรูบริการดีเลิศใกล้เอกมัย เสิร์ฟอาหารตะวันตก ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมที่มีคุณค่าทางประวัติศาสตร์ ปรับปรุงจากวังเก่าอายุกว่า 80 ปี เคยเป็นที่ประทับของพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารำไพประภา พระธิดาในสมเด็จพระราชปิตุลาบรมพงศาภิมุข เจ้าฟ้าภาณุรังษีสว่างวงศ์ กรมพระยาภาณุพันธุวงศ์วรเดช พระราชโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีทั้งโซนภายในและภายนอก เหมาะทั้งมานั่งดื่มและดินเนอร์ ที่ตั้ง : ถ.สุขุมวิท ระหว่างซอย 59 กับ 61 ราคา : 120 – 600 บาท เปิดบริการ : ทุกวัน 8.00 - 23.00 เบอร์โทร : 02 - 714 - 2112 5. The Hey 53 Coffee & Kitchen - ร้านนั่งสบายบรรยากาศแวดล้อมด้วยสวนร่มรื่นในย่านพระราม 9 ไว้นั่งทอดอารมณ์ยามบ่าย ครบถ้วนทั้งอาหาร อาหารจานเดียวและอาหารตามสั่ง เป็นอาหารฝรั่งแนวฟิวชั่น และเบเกอรี่ต่าง ๆ ตกแต่งสไตล์ลอฟต์ เลือกนั่งได้ทั้งข้างนอกข้างใน หรือถ้าจะมานัดประชุมกับลูกค้า ก็มีห้องประชุมไว้บริการพร้อมฟรี Wi-Fi กลางคืนมีไวน์และค็อกเทลสำหรับคนชอบสังสรรค์ ที่ตั้ง : ถ.พระราม 9 ซอย 53 สวนหลวง ราคา : 100 - 250 บาท เปิดบริการ : ทุกวัน 9.00 - 22.00 เบอร์โทร : 081 - 134 - 2250 6. 99 Rest Backyard Cafe’ - สถานที่สวยและอาหารก็น่าสนใจ มีเมนูหลากหลายมากทั้งอาหารไทยและนานาชาติ เสิร์ฟในสไตล์หรูหรา จัดจานมาสวยงามสร้างสรรค์ไม่แพ้ไปดินเนอร์ในโรงแรม มีอาหารว่างเก๋ ๆ อย่าง หมูย่างใบชะพลู ไก่ย่างขมิ้น ผัดสะเต๊ะไก่ และโฮมเมดพิซซ่า เหมาะทั้งสังสรรค์ยามบ่ายและดินเนอร์แบบจริงจัง ตกแต่งประณีตทั้งภายนอกภายใน ที่ตั้ง : ถ.พระรามเก้า ซอย 41 สวนหลวง (ตั้งอยู่หน้าโครงการหมู่บ้าน 99 Residence บนถนนพระราม 9) ราคา : 250 - 500 บาท เปิดบริการ : ทุกวัน 10.00 - 23.00 เบอร์โทร : 02 - 300 - 4339 7. ปฐม – Patom Organic Living - คาเฟ่ออร์แกนิคบรรยากาศเรียบเท่กลางสวนสวย แต่กลายเป็นหรูสะบัดเพราะตั้งอยู่ย่านทองหล่อ น่าประทับใจ ทั้งการออกแบบสถาปัตยกรรม การตกแต่ง การจัดสวน เมนูอาหาร-เครื่องดื่มสูตรออร์แกนิค และสินค้าอาหารออร์แกนิคในร้านเป็นผลผลิตมาจากออร์แกนิคฟาร์มแบรนด์ Patom ที่เจ้าของผลิตเองจากสวนสามพราน ร้านเก๋นั่งสบายทั้งภายนอกภายใน ถ่ายรูปเพลินแทบไม่อยากกลับ ที่ตั้ง : ซ.สุขุมวิท 49/6 (ซอยพร้อมภักดิ์) คลองตันเหนือ เขตวัฒนา ราคา : 80 – 200 บาท เปิดบริการ : ทุกวันยกเว้นวันจันทร์ 9.00 - 18.30 เบอร์โทร : 098 - 259 - 7514 8. Plantation Café - ด้วยแรงบันดาลใจจากคาเฟ่ในเมลเบิร์น นำมาสู่คาเฟ่สุดชิคที่ดัดแปลงมาจากโรงงานทอผ้า บรรยากาศร่มรื่นในเรือนกระจก แวดล้อมด้วยสวนสวยอลังการสไตล์อังกฤษ นอกจากจะเหมาะกับการมานั่งจิบกาแฟ ก็มีบริการอาหารสไตล์ยุโรป ราคาอาจจะดูเหมือนแพงหน่อย แต่ถ้าได้เห็นสถานที่แล้วจะรู้สึกว่าโอเคมาก ๆ ที่ตั้ง : 26/1 ซอยคลองลำเจียก ถ.ประดิษฐ์มนูธรรม คลองกุ่ม (อยู่ในโครงการ THE PUD ก่อนถึงเลียบด่วน) ราคา : 250 - 500 บาท เปิดบริการ : 11.00 - 23.00 เบอร์โทร : 084 - 670 - 6772 9. Wood Café and More - คาเฟ่เท่ ๆ ในอารมณ์อินดี้ ขายอาหารเอเชียนฟิวชั่นสไตล์โฮมเมด ทั้งมื้อกลางวัน มื้อค่ำ รวมทั้งชากาแฟและเครื่องดื่ม บรรยากาศเป็นกันเองเหมือนมาเที่ยวบ้านเพื่อนสนิท ตกแต่งด้วยไม้ และการจัดสวนโดยรอบที่ร่มรื่นด้วยต้นไม้พื้นถิ่นและวัสดุแบบไทย ผ่อนคลายน่านั่ง เหมาะจะไปกับเพื่อนฝูง หรือจะพาครอบครัวพร้อมเด็ก ๆ เพราะเป็นร้านที่มีรายละเอียดน่ารักมากมาย เด็ก ๆ น่าจะชอบ ที่ตั้ง : 44 ซอยลาดพร้าว - วังหิน 48 เปิดบริการ : ทุกวันยกเว้นวันศุกร์ 11.30 - 21.00 เบอร์โทร : 095 - 807 - 7555 10. Karmakamet Diner - ชื่อแบรนด์เป็นธุรกิจขายเครื่องหอมที่โด่งดัง แต่พอมาในส่วนของร้านอาหารก็ทำได้เยี่ยมยอด เป็นจุดนัดพบของเซเลบในย่านสุขุมวิท สถานที่สวยจัดทั้งภายใน ภายนอก เหมาะมาดื่มและชิมอาหารอร่อย และถ่ายรูปเช็คอินได้เริดทุกองศา ขายอาหารฝรั่งระดับพรีเมียม และของหวานที่เด็ดมากจนเป็นที่เลื่องลือในหมู่นักชิม ขายอาหารเช้าที่เสิร์ฟทั้งวันเรื่อยไปจนถึงเมนูดินเนอร์ กลิ่นในร้านก็หอมไม่เหมือนใครเพราะเขาขายเครื่องหอมด้วย ที่ตั้ง : 30 ซอยเมธีนิเวศน์ สุขุมวิท 24 ราคา : 300 - 600 บาท เปิดบริการ : ทุกวัน 10.00 - 23.30 เบอร์โทร : 02 - 262 - 0700 - 1
0
5525
ตลาดต้นไม้ใกล้บ้านสำหรับคนรักสวน
ใครที่รักต้นไม้ ชอบจัดสวนด้วยตัวเอง เรามีแหล่งช้อปต้นไม้ที่น่าสนใจมาฝากกันค่ะ บ้านใครอยู่ใกล้ที่ไหนก็ไปที่นั่นได้เลย 1. ตลาดนัดสวนจตุจักร – เป็นศูนย์รวมแหล่งพันธุ์ไม้และอุปกรณ์จากสวนจากทุกจังหวัด ที่มีพ่อค้าแม่ขายพร้อมใจกันมาตั้งแต่เย็นค่ำวันอังคาร เปิดขายเรื่อยไปจนถึงเที่ยงวันพฤหัสตลาดก็จะวาย มีทุกสิ่งให้เลือกสรรสำหรับนักจัดสวน ไม่ว่าจะเป็นต้นไม้ ปุ๋ย ของแต่งสวน ราคาไม่แพง มีที่จอดรถสะดวกสบายทั้งกลางแจ้งและในอาคาร ถ้าไม่ซื้อของใหญ่สามารถไปได้สะดวกด้วย BTS และ MRT 2. ตลาดต้นไม้ราบ 11 – มีชื่อเป็นทางการว่า โครงการไม้ดอกไม้ประดับ ร.11 พัน 2 รอ. อยู่ใกล้วงเวียนหลักสี่ ตรงข้ามวัดพระศรีมหาธาตุบางเขน เป็นแหล่งซื้อต้นไม้ทุกประเภท ตั้งแต่ไม้ขนาดเล็กในถุงจิ๋ว ๆ เรื่อยไปจนถึงไม้ล้อมที่เป็นไม้ยืนต้นขนาดใหญ่ พืชผักสวนครัวก็มี ขายวัสดุอุปกรณ์แต่งสวนทุกชนิดในราคาย่อมเยา และมีบริการรับจัดสวน เปิดทุกวัน ระหว่าง 8.00 - 16.00 น. ข้อดีของการมาซื้อของที่นี่คือไม่ต้องต่อราคา เพราะทุกร้านขายราคาเดียวกัน แต่ถ้าวันไหนอากาศร้อนมาก ๆ อาจไม่เจอแม่ค้าเพราะเขาหนีไปหลบร้อน ต้องโทรเรียกตามเบอร์ที่ติดไว้หน้าร้าน ที่จอดรถสะดวก เอารถไปจอดใกล้ ๆ แล้ว เดินเลือกซื้อ จ่ายสตางค์เสร็จก็ค่อยไปวนรถมารับของสบาย ๆ 3. ตลาดนัดธนบุรี (สนามหลวง 2) – ตั้งอยู่บนถนนเลียบคลองทวีวัฒนา การเดินทางจากถนนบรมราชชนนี มุ่งหน้าไปทางนครปฐม เมื่อผ่านถนนพุทธมณฑล 3 ก็จะเจอทางเลี้ยวเข้าถนนเลียบคลองทวีวัฒนา ตลาดแห่งนี้มีของขายหลายอย่าง มีความหลากหลายไม่แพ้สวนจตุจักร และเป็นตลาดต้นไม้ที่ได้ชื่อว่าใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของกรุงเทพฯ มีขายต้นไม้ ไม้ประดับ กล้วยไม้ และอุปกรณ์เกี่ยวกับสวนทุกประเภทในราคามิตรภาพ บนพื้นที่ 110 ไร่ มีที่จอดรถกว้างขวาง เปิดขายทุกวัน ตั้งแต่ 9.00 - 18.00 น. ถ้าเป็นวันเสาร์ - อาทิตย์ช่วงบ่าย คนจะคึกคักมาก ถ้าจะมาเดินซื้อต้นไม้แบบสงบ ๆ แนะนำให้ย่องมาวันธรรมดา 4. ตลาดต้นไม้บางใหญ่ - บางบัวทอง – อยู่บนถนนกาญจนาภิเษก (ตลิ่งชัน - สุพรรณบุรี) แหล่งรวมไม้ดอกไม้ประดับ อุปกรณ์จัดสวน อุปกรณ์การเกษตร สัตว์เลี้ยง ปลาสวยงาม อุปกรณ์ตกแต่งสวน นอกจากจะมีร้านขายต้นไม้ กับร้านขายอุปกรณ์ ก็ยังมีบริการออกแบบจัดสวนด้วย แต่ละร้านเขาจะจัดเป็นสวนหย่อมเล็ก ๆ โชว์ฝีมือไว้ด้านหน้าให้เห็นสไตล์ของใครของมัน มีพันธุ์ไม้หลายชนิด รวมทั้งไม้ยืนต้น ขายในราคากลาง ๆ ไม่แพงไปกว่าสนามหลวง 2 หรือราบ 11 แต่อาจจะแพงกว่าการไปซื้อในย่านชานเมืองไกล ๆ อย่างคลองรังสิตหรือในสวนลึก ๆ เหมาะสำหรับคนที่สะดวกจะเดินทางมาย่านนี้และต้องการหานักจัดสวนที่มีไอเดียก็จะมีให้เลือกได้สบายใจ 5. ตลาดต้นไม้เทเวศวร์ (ตลาดเทวราช) – เป็นแหล่งซื้อต้นไม้ที่ดั้งเดิมของกรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนถนนสามเสนระหว่างธนาคารแห่งประเทศไทย (แบงก์ชาติ) วังบางขุนพรม และหอสมุดแห่งชาติ เป็นตลาดสดเก่าแก่ริมฝั่งคลอง นอกจากจะมีของกินอร่อยหลายอย่าง ยังมีแหล่งจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับอยู่ริมคลองผดุงกรุงเกษม ซึ่งตอนนี้รัฐบาลก็ได้ชุบให้ฟื้นกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง มีร้านค้าไม้ดอกไม้ประดับอยู่ประมาณ 20 ร้าน แม้จะไม่ใช่แหล่งใหญ่ แต่ตลาดเทเวศร์นี้ก็มีร้านต้นไม้และอุปกรณ์สวนครบครัน ตั้งแต่ ไม้เล็ก ไม้ใหญ่ สวนถาด กระถาง เครื่องปลูก เครื่องมือทำสวน ปุ๋ย ยาฆ่าแมลง น้ำพุ น้ำตก เปิดขายทุกวันตั้งแต่ 7.00 - 19.00 น. แต่ถ้ามาวันหยุดเสาร์อาทิตย์จะมีบรรยากาศคึกคักน่าเดินกว่าวันธรรมดา แนะนำว่าควรไปรถสาธารณะ ไม่ต้องลำบากหาที่จอดรถ 6. ศูนย์ท่องเที่ยวและจำหน่ายไม้ดอกไม้ประดับ นนทบุรี – ตั้งอยู่ริมถนนรัตนาธิเบศร์ย่านเมืองนนท์ ในจุดที่ใคร ๆ เรียกกันติดปากว่า ‘ซอยช้าง’ เป็นพื้นที่ขายต้นไม้และวัสดุอุปกรณ์แต่งสวนขนาดประมาณ 20 ไร่ เปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00 - 18.00 น. บรรยากาศดี หลายจุดตกแต่งได้อารมณ์เก๋ ๆ ชิค ๆ นอกจากมาซื้อต้นไม้แล้วก็เดินเล่นได้สบาย ๆ ร่มรื่นสวยงาม สามารถเดินทางไปได้โดยรถส่วนตัวหรือนั่งรถไฟฟ้าไปลงสถานีรถไฟฟ้าบางรักน้อย ถึงจะไกลจากย่านใจกลางกรุงแต่เดินทางสะดวกมาก เป็นลักษณะของชุมชนคนรักต้นไม้มากกว่าจะเป็นตลาดที่เน้นขายอย่างเดียว ใครมาแล้วจะชอบอยากมาอีก เพราะนอกจากมีไม้ประดับแปลก ๆ สวย ๆ มากมาย ยังมีร้านของนักออกแบบจัดสวนเก่ง ๆ มารวมตัวโชว์ผลงานกันอยู่ในย่านนี้เพียบ 7. ตลาดน้ำตลิ่งชัน – นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะรู้จักตลาดน้ำตลิ่งชันในฐานะที่เป็นแหล่งกินแหล่งช้อปในบรรยากาศพื้นถิ่นดั้งเดิม แต่คนรักต้นไม้จะรู้ว่า ระหว่างทางเดินเข้าตลาดน้ำสองข้างทางเป็นแหล่งขายต้นไม้ จะมีร้านขายต้นไม้ดอกไม้ประดับและไม้สมุนไพร และอุปกรณ์แต่งสวนที่น่าแวะมาช้อปและชมอีกแห่งหนึ่ง มีการจัดเป็นสวนหย่อมสวย ๆ ไว้หย่อนใจเป็นระยะ ๆ คลายเหนื่อยคลายร้อน แวดล้อมไปด้วยบรรยากาศของชีวิตชาวบ้านพื้นถิ่นแบบไทย ๆ ดั้งเดิม ที่น่าสนใจคือมีต้นพันธุ์ของไม้ผลที่ปลูกและขยายพันธุ์เป็นพืชพื้นถิ่นในย่านนี้ให้เลือกซื้อหลายชนิด ตลาดเปิดเฉพาะวันเสาร์อาทิตย์ โดยวันเสาร์จะขาย 9.30 - 16.00 น. และวันอาทิตย์เปิด 14.30 - 16.30 น. อาจจะไม่ใช่แหล่งซื้อต้นไม้ใหญ่ แต่เหมาะสำหรับเที่ยวไปช้อปไปกินไปแบบเพลิน ๆ มากกว่า 8. ตลาดต้นไม้ศรีนครินทร์ – เป็นทำเลซื้อต้นไม้ขนาดย่อม ๆ สำหรับแต่งบ้านแต่งคอนโดฯ ยอดนิยมของคนย่านศรีนครินทร์ - บางนา มีร้านไม้ประดับตั้งเรียงรายอยู่ริมถนนศรีนครินทร์ เริ่มจากแยกอุดมสุขเรื่อยไปจนเกือบถึงแยกอ่อนนุช ด้านหน้าเป็นโซนไม้ดอก - ไม้ประดับขนาดเล็กและกลาง ด้านในมีไม้ยืนต้นและมีขายหญ้าสำหรับปูสนามและอุปกรณ์จัดสวนครบครัน ราคาอาจแพงกว่าย่านชานเมือง แต่สะดวกในการเดินทาง ทุกร้านเปิดตั้งแต่ 8.00 - 18.00 น. เปิดขายทุกวัน 9. ตลาดต้นไม้คลองตัน – เป็นตลาดเล็ก ๆ พื้นที่ประมาณ 1 ไร่ ตั้งอยู่ในย่านคลองตัน ถนนสุขุมวิท 71 ตรงซอยปรีดีพนมยงค์ 38 เป็นทำเลกลางกรุง อยู่ไม่ไกลรถไฟฟ้า ราคาขายก็จะสูงกว่าย่านชานเมือง แต่สะดวกสำหรับคนที่ไม่อยากขับรถไกล มีขายไม้ประดับขนาดกลาง ขนาดเล็ก และไม้ดอก รวมทั้งตะบองเพชร และมีอุปกรณ์แต่งสวน ดิน หิน ปุ๋ย กระถาง ฯลฯ ครบถ้วน มีบริการรับออกแบบจัดสวนด้วย เปิดทุกวันตั้งแต่ 8.00 - 17.00 น. 10. ตลาดต้นไม้ริมถนนเลียบทางด่วนเอกมัย - รามอินทรา – เป็นแหล่งซื้อขายต้นไม้ที่มีร้านขายต้นไม้และอุปกรณ์ทำสวนตั้งเรียงรายกันริมถนนใหญ่ หาที่จอดรถเหมาะ ๆได้แล้ว ก็เดินช้อปไปตามทางเดินด้านหน้าร้านที่เป็นฟุตบาธสาธารณะกว้าง ๆ มีไม้ประดับและของแต่งสวนเก๋ไก๋สะดุดตา แต่ราคาก็จะค่อนข้างสูงไปตามทำเลและความเท่ของสินค้า เหมาะกับคนที่มีเวลาน้อย อยากได้ของสวย ๆ ที่ไม่ต้องไปซื้อไกล ไม่ว่าจะเป็นไม้ดอกในกระถาง ไม้ประดับและไม้พุ่มขนาดกลาง ผักสวนครัว กล้วยไม้ โอ่ง กระถาง ตุ๊กตาเซรามิก น้ำพุ ที่มีดีไซน์แปลกตา และเฟอร์นิเจอร์ไม้ธรรมชาติ ย่านนี้จะไม่ใช่แหล่งซื้อไม้ยืนต้นหรือไม้ล้อมขนาดใหญ่ เพราะพื้นที่ขายมีจำกัด เหมาะกับการซื้อของจัดสวนหย่อมขนาดเล็กและกลาง เปิดขายทุกวันตั้งแต่เช้าจรดเย็น ถ้าเป็นวันหยุดจะมีคนคึกคัก
0
1214
การตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างคอนโดมิเนียม โครงการ เดอะ สเตจ เตาปูน - อินเตอร์เชนจ์
คุณสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการผู้บริหาร และคุณณัฏฐพร กลั่นเรืองแสง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร สายงานธุรกิจจัดสรรและคอนโดมิเนียม บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ได้เข้าตรวจความคืบหน้าการก่อสร้างคอนโดมิเนียม โครงการ เดอะ สเตจ เตาปูน - อินเตอร์เชนจ์ ซึ่งขณะนี้ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการ ในหมวดงานโครงสร้างไปแล้ว 99.48 % และจะสามารถเข้าอยู่ได้ในเร็ว ๆ นี้ ซึ่งถือได้ว่าเร็วกว่ากำหนดที่ตั้งเป้าหมายไว้ และสำหรับลูกค้าท่านใดที่สนใจคอนโดมิเนียมติดรถไฟฟ้า 2 สาย (สีม่วง - สีน้ำเงิน) โครงการ เดอะ สเตจ เตาปูน - อินเตอร์เชนจ์ สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เบอร์ 1232 กด 19 หรือ www.thestagecondo.com
0
1319
คุณสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ เข้ารับรางวัล APEA 2017 สาขา Property Development
ขอแสดงความยินดีกับคุณสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานกรรมการผู้บริหาร บริษัท เรียลแอสเสท ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด ที่ได้รับรางวัล Asia Pacific Entrepreneurship Awards 2017 Thailand สาขา Property Development จาก คุณดาโต๊ะ วิลเลี่ยม เอิง ประธาน เอ็นเตอร์ไพรส์ เอเชีย และคุณอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ณ โรงแรมเจดับบลิวแมริออท กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา
<<
<
26
27
28
29
30
31
32
33
34
35
>
>>
เงินผ่อน
เงินกู้
บาท
ปี
%
คำนวณ
เริ่มใหม่
อัตราผ่อนต่อเดือน
บาท
บาท
ปี
%
การคำนวณนี้เป็นการประมาณยอดเงินกู้ได้สูงสุด 35% ของรายได้สุทธิ*
คำนวณ
เริ่มใหม่
อัตราผ่อนต่อเดือน
บาท
เงินกู้
บาท
Real Asset Application