REAL HOME CARE
1232
TH
/
EN
REAL HOME CARE
1232
TH
/
EN
บ้านเดี่ยว
บ้านเดี่ยว วิรัณยา รังสิต - วงแหวน
บ้านเดี่ยว วีวัลดี บางนา
บ้านเดี่ยว วิรัณยา บางนา - สุวรรณภูมิ
บ้านแนวคิดใหม่
บ้านแนวคิดใหม่ เซนส์ บางนา - สุวรรณภูมิ
ทาวน์โฮม
ทาวน์โฮม สตอรี่ส์ รังสิต - วงแหวน
ทาวน์โฮม สตอรี่ส์ บางนา - สุวรรณภูมิ
ทาวน์โฮม เพล็กซ์ อ่อนนุช - วงแหวน
คอนโดมิเนียม
คอนโดมิเนียม เอ สเปซ เมกา 2
คอนโดมิเนียม อาโล่ สุขุมวิท 105 - ลาซาล
คอนโดมิเนียม เดอะ สเตจ เมดบายมี รัชดา - ห้วยขวาง
คอนโดมิเนียม เอ สเปซ เมกา
คอนโดมิเนียม เดอะ สเตจ มายด์สเคป รัชดา - ห้วยขวาง
คอนโดมิเนียม เอสทีค ทองหล่อ
บล็อก
เกี่ยวกับเรา
ติดต่อเรา
Top
REAL ASSET
BLOG
ข่าวสารอสังหาริมทรัพย์
ไลฟ์สไตล์
ข่าวสารกิจกรรม
เคล็ดลับต่างๆ
ข่าวสารอสังหาริมทรัพย์
โปรเปรี้ยว....ลดให้เข็ด!! ลดสูงสุด 5 ล้านบาท* ครั้งเดียวส่งท้ายปีกับโครงการบ้านและคอนโด...จาก REAL ASSET
ดูรายละเอียด
ไลฟ์สไตล์
คอนโดบางนา ติดเมกา บางนา 0 เมตร กิน เที่ยว ช้อป
ดูรายละเอียด
ข่าวสารกิจกรรม
REAL ASSET เปิดบ้านต้อนรับ Blogger ชม 'ARLO SUKHUMVIT 105 - LASALLE' 31 ก.ค. 67
ดูรายละเอียด
เคล็ดลับต่างๆ
แนะนำขั้นตอนการซื้อบ้านเดี่ยวบางนาผ่านธนาคาร
ดูรายละเอียด
เคล็ดลับต่างๆ
Tip&trick
ดูรายละเอียด
0
2042
ปรับฮวงจุ้ยบ้านอย่างไรให้ปังต้อนรับปีจอ
ดูรายละเอียด
0
1904
ปรับเปลี่ยนบ้านแค่นิดเดียวชีวิตเริ่ด
ดูรายละเอียด
0
2740
ไอเดียเจ๋ง ๆ ในการติดวอลเปเปอร์
ดูรายละเอียด
0
1771
เลือกมัณฑนากรอย่างไรให้ได้บ้านสวยถูกใจผู้อยู่
ดูรายละเอียด
0
1431
การเลือกตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินในบ้าน
ดูรายละเอียด
0
2041
10 วิธีกำจัดกลิ่นอาหารในคอนโด กลิ่นแรงแค่ไหนก็หายเกลี้ยง!
0
2042
ปรับฮวงจุ้ยบ้านอย่างไรให้ปังต้อนรับปีจอ
ก้าวเข้าสู่ปีใหม่แล้ว หลายคนอาจเลือกไปช้อปปิ้ง เอาฤกษ์เอาชัยซื้อเฟอร์นิเจอร์ของใช้เข้าบ้าน อันเปรียบเสมือนการต้อนรับสิ่งดีๆ ที่กำลังจะมาถึง รวมไปถึงขั้นตอนการจัดบ้าน ใช่ว่าจำเป็นต้องทำให้สะอาดเอี่ยมอ่องอย่างเดียว เพราะถ้าหากจัดบ้านถูกหลักขั้นตอนของฮวงจุ้ย รับรองว่าได้ทั้งบ้านเรียบร้อยและเฮง ๆ รวย ๆ ตลอดปีอย่างแน่นอน ก้าวเข้าสู่ปีใหม่แล้ว หลายคนอาจเลือกไปช้อปปิ้ง เอาฤกษ์เอาชัยซื้อเฟอร์นิเจอร์ของใช้เข้าบ้าน อันเปรียบเสมือนการต้อนรับสิ่งดีๆ ที่กำลังจะมาถึง รวมไปถึงขั้นตอนการจัดบ้าน ใช่ว่าจำเป็นต้องทำให้สะอาดเอี่ยมอ่องอย่างเดียว เพราะถ้าหากจัดบ้านถูกหลักขั้นตอนของฮวงจุ้ย รับรองว่าได้ทั้งบ้านเรียบร้อยและเฮง ๆ รวย ๆ ตลอดปีอย่างแน่นอน หลักของจัดบ้านรับทรัพย์มีขั้นตอนดังต่อไปนี้ การจัดบ้านรับทรัพย์ แนะนำว่าให้แบ่งโซนที่ต้องการจะจัดบ้าน ไม่ว่าจะเป็นหน้าบ้าน ห้องนั่งเล่น ห้องน้ำ ห้องนอน หรือครัว โดยเริ่มจัดทีละส่วน เพื่อให้ถูกต้องต้องตามหลักฮวงจุ้ย ซึ่งเน้นเรื่องทิศทางหรือโทนสีที่ตรงกับธาตุต่าง ๆ โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ 1. จัดบ้านรับปีใหม่ เริ่มต้นตั้งแต่หน้าบ้าน เป็นที่รู้กันดีว่าบริเวณหน้าบ้าน เปรียบเสมือนจุดรับพลังงานเข้าบ้าน ดังนั้นบริเวณหน้าบ้านจึงควรทำความสะอาดไม่ให้รกรุงรัง ประกอบกับจำเป็นต้องจัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เพื่อให้เงินทองไหลเข้าบ้านได้สะดวกยิ่งขึ้น พร้อมกับถือว่าเป็นการต้อนรับสิ่งดี ๆ ต้อนรับปีใหม่ที่กำลังจะมาถึง 2. จัดบ้านให้มีความสุข ด้วยการเลือกสีสดใส บริเวณห้องนั่งเล่น ตามความเชื่อของศาสตร์ฮวงจุ้ย ห้องนั่งเล่นเปรียบเสมือนหัวใจหลักของบ้าน เนื่องจากเป็นจุดต้อนรับแขก และเป็นแหล่งรวมความบันเทิงของรคนในบ้าน ดังนั้นการจัดบ้านบริเวณห้องนั่งเล่น จึงควรเลือกใช้โทนสีสดใส อันเปรียบเสมือนสัญลักษณ์ความสุขของคนในบ้าน โดยเฉพาะโทนสีม่วงและแดง ที่มีความเชื่อว่าสีเหล่านี้เป็นตัวแทนของธาตุไฟ ช่วยให้สร้างบรรยากาศความรื่นรมย์ในการสนทนาภายในห้องนี้ได้อย่างเป็นสุข 3. จัดบ้านอยู่แล้วรวย จากของมงคลในห้องนอน ห้องนอน นอกจากจะเป็นมุมพักผ่อนภายในบ้านแล้ว ยังสามารถจัดบ้านให้กลายเป็นแหล่งเงินทองได้อีกด้วย วิธีง่าย ๆ เพียงนำของมงคลมาเสริมตกแต่งภายในห้องนอน ไม่ว่าจะเป็นรูปปั้นปลาทอง หรือเพื่อเป็นการต้อนรับปี 2561 อาจหารูปปั้นสุนัขมาจัดวางเพื่อเสริมมงคลในห้องนอนได้ 4. จัดบ้านให้ร่มเย็น จากต้นไม้สีเขียวในห้องน้ำ ต้นไม้สื่อได้ถึงความร่มเย็น สงบสุข และเป็นสัญลักษณ์ของธาตุไม้ ดังนั้นเพื่อเป็นการทำให้ห้องน้ำนั้นเปรียบเสมือนไตของบ้าน มีความสงบ น่าเข้าไปทำธุระต่าง ๆ จึงควรจัดบ้านส่วนนี้ด้วยเหล่าต้นไม้ ดอกไม้ พร้อมด้วยทาสีฟ้าช่วยให้เกิดความรู้สึกสงบ สดชื่น ประกอบกับตามศาสตร์ฮวงจุ้ยเชื่อว่า ต้นไม้ และดอกไม้ จะช่วยเสริมเงินทอง ดังนั้นเมื่อจัดบ้านเรียบร้อยแล้ว ก็อย่าลืมหมั่นดูแลรักษาด้วย มิฉะนั้นจากพลังงานดีอาจกลายเป็นร้ายได้ 5. จัดบ้านให้ถูกหลัก ไม่ว่าจะห้องไหน ต้องขจัดของอัปมงคลให้หมด เมื่อจัดบ้านส่วนต่างๆ ของบ้านให้มีความสะอาด สดใส น่าอยู่ รับเงินทองแล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่ควรลืมคือ การตรวจตราดูของใช้ภายในบ้าน มีสิ่งไหนแตกหัก ชำรุดบ้าง ถ้ามีควรรีบซ่อมแซมให้ดี ส่วนอันไหนไม่ใช้งานแล้วก็ให้กำจัดทิ้งไป สืบเนื่องจากของเหล่านี้เปรียบเสมือนลางร้ายให้กับสมาชิกและครอบครัวภายในบ้าน อีกทั้งตามศาสตร์ฮวงจุ้ยมีความเชื่อว่าหลอดไฟ เปรียบเสมือนแสงสว่างนำทางความมมงคลเข้าบ้าน ดังนั้นจึงควรตรวจดูหลอดไฟต่าง ๆ ภายในบ้าน พร้อมรีบเปลี่ยนซ่อมแซมให้เรียบร้อยก่อนเข้าปีใหม่ ทริปการจัดบ้านเสริมโชคชะตาเฉพาะด้าน การจัดบ้านที่ดี นอกจากจะต้องทำให้สะอาดถูกต้องตามศาสตร์ฮวงจุ้ยแล้ว จำเป็นต้องคำนึงถึงการจัดบ้านเสริมโชคชะตาเฉพาะด้าย อย่างในกรณีที่ต้องการให้ลูกฉลาด ควรหันโต๊ะทำงานหรือชั้นวางหนังสือให้ถูกทิศ เช่น ในกรณีที่ตัวบ้านหันไปทางทิศตะวันตก ให้เลือกโซนจัดวางโต๊ะอ่านหนังสือไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือ หรือถ้าตัวบ้านหันไปทางทิศตะวันออกเฉียงใต้ ให้หันชั้นวางหนังสือไปทางทิศใต้ เฉกเช่นเดียวกับคนที่ต้องการเสริมความรัก ก็ควรเลือกห้องนอนในทิศนี้เช่นกัน เรื่องของการจัดบ้านรับปีใหม่ เรียกว่าเหมาะกับคนที่เพิ่งซื้อบ้าน และกำลังย้ายเข้าไปอยู่อย่างมาก เพราะถือว่าเป็นการจัดบ้านเอาฤกษ์เอาชัย สร้างความสิริมงคลตั้งแต่แรกเริ่มที่เข้าบ้านใหม่เลยทีเดียว เรื่องของศาสาตร์ฮวงจุ้ยจะว่าไปเชื่อไว้ก็เป็นเรื่องที่ดี เพราะไม่แน่หากลุกขึ้นมาจัดบ้านตามเทคนิคดังกล่าวเบื้องต้นแล้ว อาจนำโชคลาภเข้ามาต้อนรับปีใหม่ก็เป็นได้ สำหรับคนที่เพิ่งซื้อบ้านใหม่ นอกจากจำเป็นต้องศึกษาฮวงจุ้ยของการจัดบ้านแล้ว ควรศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม ก่อนตัดสินใจซื้อ - ขายหรือให้เช่า หรือเช่าอสังหาฯ จากแหล่งข้อมูลที่น่าสนใจเพิ่มเติมด้วยค่ะ ที่มา : ddproperty ------------------------------------------ ชมข้อมูลบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ คอนโดมิเนียม เพิ่มเติมได้ที่ Website : www.realasset.co.th Facebook : www.facebook.com/RealAssetDevelopment Instagram : www.instagram.com/realasset.development/ LINE@ : @realasset Call Center : 1232
0
1904
ปรับเปลี่ยนบ้านแค่นิดเดียวชีวิตเริ่ด
ถ้าไม่รู้จะใช้ฤกษ์ไหนในการเปลี่ยนบ้าน - ห้องชุดรก ๆ ให้กลับมาน่าอยู่ดังเดิม ก็ใช้ฤกษ์ปีใหม่นี่แหละดีที่สุด ถือเป็นการให้ของขวัญกับตัวเองรับปีใหม่นี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ขจัดความรก ทิ้งของไม่ใช้ ฟื้นความสะอาด” ให้กับที่อยู่อาศัยของเรา ถ้าไม่รู้จะใช้ฤกษ์ไหนในการเปลี่ยนบ้าน - ห้องชุดรก ๆ ให้กลับมาน่าอยู่ดังเดิม ก็ใช้ฤกษ์ปีใหม่นี่แหละดีที่สุด ถือเป็นการให้ของขวัญกับตัวเองรับปีใหม่นี้ ภายใต้คอนเซ็ปต์ “ขจัดความรก ทิ้งของไม่ใช้ ฟื้นความสะอาด” ให้กับที่อยู่อาศัยของเรา โดยเฉพาะ “ของที่เราไม่ค่อยได้ใช้” ให้ประเมินว่า.. เราไม่ได้ใช้ของสิ่งนั้นมานานเท่าไหร่แล้ว ถ้านานเกิน 1 ปี แสดงว่า ของนี้ไม่ได้จำเป็นกับชีวิตประจำวันของเรา ของสิ่งนั้นจำเป็นกับที่อยู่อาศัยของเราหรือไม่ ถ้าไม่จำเป็น เก็บไว้ก็ไม่มีประโยชน์ ก็ควรทิ้งไป แต่ถ้าเป็นอุปกรณ์ที่มีความจำเป็น เช่น อุปกรณ์ช่างต่าง ๆ อันนี้แม้จะไม่ค่อยได้ใช้ ก็ยังเก็บไว้ได้ เพียงแต่ต้องสำรวจสักหน่อยว่ายังใช้งานได้ตามปกติหรือไม่ ถ้าใช้ไม่ได้แล้ว ควรทิ้งไป ถ้าพิจารณาแล้ว เข้าข่ายข้อ 1 และประเมินตามข้อ 2 แล้วว่าไม่จำเป็น ควรทิ้ง หรือบริจาคให้คนอื่น ก็จะช่วยทำให้บ้านของเรา โล่ง โปร่ง และน่าอยู่ยิ่งขึ้น สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเริ่มตรงไหน รกไปหมด แนะนำว่า ให้ไล่จัดการไปที่ละจุด เริ่มด้วย 1. ที่จอดรถ ที่อยู่ในเขตพื้นที่บ้านของเรา ลองนึกดูดี ๆ จะเห็นภาพชัดเลยว่า เราไม่ได้ใช้เพื่อจอดรถเพียงอย่างเดียว แต่เรายังใช้วางข้าวของอีกมากมายที่อาจจะล้นออกมาจากตัวบ้าน หรือว่าไว้ในพื้นที่บ้านเราไม่ได้ ให้สำรวจเลยว่า มีของอะไรที่เราไม่ใช้แล้ว ดูทิ้งร้าง ดูเป็นตู้เก่าใกล้พัง ควรตัดใจทิ้งไปได้เลย แล้วคุณจะมีพื้นที่ส่วนนี้สำหรับใช้ประโยชน์อย่างอื่นได้เพิ่มขึ้น และนอกจากในเรื่องของการจัดบริเวณที่จอดรถให้สวยงามและสามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มพื้นที่แล้วนั้น อย่าลืมสังเกตถึงรอยแตกร้าวของที่จอดรถด้วย 2. สวนภายในบ้าน ถ้าสวนเล็ก ๆ อยู่ใกล้ที่จอดรถ ก็ให้ดูไปพร้อมกันเลย กระถางต้นไม้ไหนพุพัง เก่าแล้ว ไม่ได้ใช้งาน ต้นไม้เน่า เราควรทิ้งไปเลยดีกว่า เก็บไว้ จะทำให้บ้านห่อเหี่ยว ตามหลักฮวงจุ้ยแล้วก็ไม่ดี ตามหลักสายตาเราแล้วก็ไม่ดี ถ้าตื่นเช้ามา ต้องเจอต้นไม้เฉา ๆ ตายคากระถาง คงไม่บันเทิงใจเท่าไหร่นัก แต่ถ้าสวนอยู่ในจุดอื่น และเป็นสวนที่มีพื้นที่ใหญ่ อาจต้องใช้เวลาสักหน่อย ก็ค่อย ๆ เก็บ ค่อย ๆ ทำไป อะไรไม่ใช้ ควรทิ้ง หรือถ้าอยากเก็บไว้ ก็ควรหยิบมาทำความสะอาจให้ดูดีขึ้น ก็ช่วยได้เหมือนกัน 3. ห้องนั่งเล่น ตอนนี้เรากำลังเข้าสู่พื้นที่ที่เป็นหัวใจหลักของบ้าน และเป็นพื้นที่ที่อาจจะมีของเก็บสะสมมากที่สุดของตัวบ้าน โดยถ้าบ้านมีตู้โชว์ หรือตู้เก็บของที่เป็นระเบียบอยู่แล้ว ให้รื้อ ๆ ค้น ๆ ดูสักหน่อย นำมาทำความสะอาดให้น่าดู อะไรที่ไม่ใช้แล้วก็ควรคัดเลือกไปบริจาค หรือนำทิ้งไป แต่ถ้าไม่ได้มีตู้เก็บของ แล้วใช้วิธีวาง ๆ สุ่ม ๆ ไว้ตามมุมต่าง ๆ อันนี้ควรนำมาจัดให้เข้าที่เข้าทาง หาซื้อตู้เก็บของเล็ก ๆ มาเก็บให้เป็นระเบียบ พื้นที่ส่วนนี้ของเราก็จะดูดีขึ้นอย่างไม่น่าเชื่อ สำหรับคอนโดมิเนียมเอง จุดนี้ก็เป็นจุดที่หลายคนเก็บของไว้เยอะเหมือนกัน บางคนทำตู้บิลท์อินไว้ตั้งแต่อยู่อาศัยใหม่ ๆ ของก็อัดเต็มตู้เลย ได้ฤกษ์ต้องมารื้อกันแล้ว อะไรไม่ใช้ อะไรจะบริจาค จัดเลย 4. ห้องเก็บของใต้บันได จุดนี้บางบ้านก็มี บางบ้านก็ไม่มี ซึ่งบ้านที่มี ถือว่ามุมนี้เป็นจุดอับที่สุด และส่วนใหญ่จะใช้เก็บของโน่นนี่ จนบางทีลืมไปแล้วว่า เก็บอะไร ลองไปค้นดูหน่อย เพราะมุมอับต่าง ๆ อาจเป็นที่ซ่อนตัวของสัตว์ร้าย หรือหนู แมลงสาบได้ เพื่อสุขอนามัยภายในบ้าน จึงไม่ควรละเลยมุมนี้ 5. ห้องครัว จะว่าไป มุมครัว เหมือนไม่มีอะไร แต่เอาเข้าจริง ๆ ก็เป็นอีกมุมในการเก็บสมบัติของใครหลายคนเช่นกัน โดยเฉพาะของที่เกี่ยวกับเครื่องครัว ถ้วยโถโอชาม หม้อไหนานาชนิด รวมถึง เครื่องปรุง สมุนไพรต่าง ๆ ที่อาจจะซื้อมาไว้นาน ควรใช้ฤกษ์ปีใหม่ในการรื้อ เครื่องปรุงหลายชนิด ซื้อมาไว้นาน แม้จะเหลือเยอะ แต่ให้ดูวันหมดอายุ ดูลักษณะของมันสักนิด ถ้าเห็นถ้าไม่ดี ควรทิ้งดีกว่าเก็บ เพราะถ้าใช้แล้วเป็นอันตรายต่อสุขภาพจะไม่คุ้มกัน มุมนี้เป็นมุมที่จะมีเศษอาหารตกหล่นเยอะ เป็นมุมที่ดึงดูดหนู มด แมลงวัน แมลงสาบมากที่สุด เพราะเป็นแหล่งรวมอาหารของบรรดาสัตว์เหล่านี้ ดังนั้น จึงควรทำความสะอาดให้เรียบร้อย ทิ้งของไม่ใช้แล้ว ของหมดอายุไป แล้วมุมนี้อาจจะกลายเป็นมุมที่สร้างเชฟคนใหม่ของบ้านเลยทีเดียวก็ได้ 6. ห้องน้ำ ห้องน้ำก็จะคล้ายกับห้องครัว ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ก็มีอะไรเหมือนกัน แต่อาจจะน้อยกว่าหน่อย โดยควรสำรวจของทั้งหมดในห้องน้ำ ประตูห้องน้ำยังดีอยู่มั้ย ต้องเปลี่ยนหรือเปล่า พื้นที่ห้องน้ำถึงเวลาต้องขัด ต้องทำความสะอาดกันยกใหญ่แล้วหรือยัง กระจกในห้องน้ำ ยังส่อง ยังใช้งานได้หรือ ชั้นวางอุปกรณ์อาบน้ำ ดูเก่า ๆ จะเปลี่ยนใหม่หรือไม่ ถ้าไม่เปลี่ยนก็ควรทำความสะอาด และเหมือนกับห้องครัว ควรสำรวจว่า อุปกรณ์ไหนในห้องนี้ สบู่เหลว ที่ขัดตัว ยาสระผม ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ มีอะไรที่ซื้อมานานแล้ว ถึงควรแก่เวลาที่จะทิ้งไปได้แล้วหรือไม่ อะไรควรทิ้ง ก็ต้องทิ้งไป เพราะเมื่อถึงอายุของมันที่ไม่ควรใช้งานแล้ว ฝืนใช้ไป อาจมีผลกับผิวหนังของเราได้ ถึงเวลานั้น ต้องมาเสียค่ารักษาอีก ไม่คุ้มอีกเหมือนกัน 7. ห้องนอน ห้องนี้ก็พีคพอ ๆ กับห้องนั่งเล่น เพราะห้องนอน ห้องส่วนตัวของใครของมัน มักจะเป็นที่เก็บของขนาดใหญ่ ตู้ที่มีเก็บของจนล้นแล้ว มีของสุ่มทุกมุมของห้องหรือไม่ ตุ๊กตาเต็มเตียง อุปกรณ์แต่งหน้าเต็มโต๊ะเครื่องแป้ง อะไรไม่จำเป็นควรขจัดออกเช่นกัน เพราะถ้าเรายังเก็บไว้ นอกจากจะทำให้ห้องรกแล้ว ในอนาคตเราอาจจะต้องเสียเงินซื้อตู้ใหม่ หรือโต๊ะเครื่องแป้งใหม่ เพื่อมาไว้ของเพิ่มก็เป็นได้ แล้วห้องที่เคยดูโล่ง ๆ ก็จะแคบไปถนัดตา การทำห้องนอนให้โปร่ง โล่งมีความสำคัญกว่าห้องอื่น ๆ พอสมควร เพราะเราใช้เวลาในการนอนกับห้องนี้ ถ้าห้องไม่สะอาด เราอาจจะเผลอสูญเอาสิ่งสกปรกเข้าสู่ร่างกายในระหว่างนอนอย่างไม่รู้ตัว ส่งผลให้กลายเป็นโรคภูมิได้ง่าย ยิ่งถ้าเป็นห้องนอนที่มีบุตรหลานเล็กแล้ว ไม่ควรละเลย หรือจะเป็นคนโต ๆ อย่างเรา ๆ ก็ไม่ควรมองข้าม ช่วงปีใหม่แบบนี้อย่าลืมจัดห้องนอนให้ถูกหลักฮวงจุ้ยเพื่อเสริมดวงให้ชีวิตรุ่งรับปีจอ และนอกจากพื้นที่สำคัญ 7 จุดในบ้านแล้ว อย่าลืมตรวจเช็คอุปกรณ์ทุกอย่างภายในบ้านด้วย เช่น ปลั๊กไฟฟ้า ก๊อกน้ำ ท่อน้ำทิ้ง สัญญาณเตือนไฟ เครื่องปรับอากาศ เครื่องปั๊มน้ำ โดยเฉพาะฟืนไฟต่าง ๆ ควรตรวจดูให้ดี เพราะอาจเกิดเหตุไฟลัดวงจร เหตุไฟไหม้ได้ โดยถ้าเราเลือกใช้ช่วงต้นปี ช่วงปีใหม่เป็นเวลาเริ่มต้นในการตรวจเช็ค จะทำให้เราจำได้ง่ายว่า อุปกรณ์เหล่านี้เราตรวจไปช่วงไหน ถึงเวลาจะต้องตรวจใหม่แล้วหรือยัง รวมถึงอุปกรณ์ออกกำลังกาย ที่ใครหลายคนซื้อมา แต่ไม่ค่อยได้ใช้ (หลายบ้านเอาไปใช้ตากผ้าแทนก็มี) ก็นำมาตรวจสอบดูสักนิดว่ายังใช้ได้หรือไม่ และถือโอกาสปีใหม่นี้ นำอุปกรณ์เหล่านี้ออกมาใช้ เพื่อสุขภาพของตัวเอง และใช้อุปกรณ์ออกกำลังกายที่มีอยู่แล้วให้เป็นประโยชน์ด้วย ไหน ๆ ก็ยกเครื่องบ้านครั้งใหญ่ ดังนั้น ปีใหม่นี้ เวลาจะซื้ออะไรใหม่ ๆ เข้าบ้าน ก็ต้องเริ่มคิดกันใหม่แล้วว่า จำเป็นหรือไม่ ได้ใช้จริงหรือเปล่า แต่ถ้าใครอยากเล่นใหญ่ ชนิดที่ว่าคิดจะตกแต่งบ้านครั้งใหญ่ จริง ๆ แล้วก็มีการกู้เพื่อตกแต่งบ้านที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องเสียเงินก้อนโตทีเดียว ที่มา : ddproperty ------------------------------------------ ชมข้อมูลบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ คอนโดมิเนียม เพิ่มเติมได้ที่ Website : www.realasset.co.th Facebook : www.facebook.com/RealAssetDevelopment Instagram : www.instagram.com/realasset.development/ LINE@ : @realasset Call Center : 1232
0
2740
ไอเดียเจ๋ง ๆ ในการติดวอลเปเปอร์
การติดวอลเปเปอร์เป็นองค์ประกอบสำคัญในการสร้างบรรยากาศสำหรับงานตกแต่งภายใน การเลือกวอลเปเปอร์นั้นเป็นตัวกำหนด Mood & Tone ของงานออกแบบโดยรวมได้เป็นอย่างดี โดยนอกจากจะเป็นเสมือนฉากให้กับองค์ประกอบหลักหรือเฟอร์นิเจอร์ที่เป็นจุดเด่นในห้องแล้ว ตัววอลเปเปอร์ยังสามารถเป็นจุดเด่นของพื้นที่ได้ ด้วยไอเดียเก๋ ๆ ดังนี้
0
1771
เลือกมัณฑนากรอย่างไรให้ได้บ้านสวยถูกใจผู้อยู่
บรรยากาศการตกแต่งภายในเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้บ้านน่าอยู่ พระเอกหรือนางเอกของงานนี้ก็คือมัณฑนากรมืออาชีพ คำถามคือจะเลือกมัณฑนากรอย่างไรให้ได้ตรงใจ และมีรายละเอียดในการทำงานร่วมกันอย่างไรให้ลงตัว ซึ่งในเรื่องนี้ก็มีข้อพิจารณาที่เจ้าของบ้านควรทราบ เพื่อให้ได้งานตกแต่งภายในที่มีคุณภาพถูกใจและสมราคา
0
1431
การเลือกตู้นิรภัยเพื่อความปลอดภัยของทรัพย์สินในบ้าน
นอกจากการมีบ้านในทำเลที่ดี มีระบบรักษาความปลอดภัยที่ไว้วางใจได้แล้ว การมีตู้นิรภัยเอาไว้เก็บรักษาสิ่งมีค่าและของสำคัญต่าง ๆ ก็จะยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้มากขึ้น เรามีข้อพึงพิจารณาสำหรับคนที่กำลังตัดสินใจจะซื้อ ‘ตู้นิรภัย’ มาฝากกันค่ะ
0
2041
10 วิธีกำจัดกลิ่นอาหารในคอนโด กลิ่นแรงแค่ไหนก็หายเกลี้ยง!
ปัญหาเบอร์ต้น ๆ ของชาวคอนโด อพาร์ทเมนท์ และหอพักก็คงหนีไม่พ้น เรื่องกลิ่นอาหารใช่ไหมคะ เลยทำให้ไม่อยากทำอาหารกินเองเท่าไร แต่หลังจากนี้สามารถเข้าครัวทำอาหารกินเองได้อย่างสบายใจ เพราะเรามีวิธีกำจัดกลิ่นอาหารในคอนโดมาฝากแล้ว ทั้งวิธีสกัดกลิ่นไม่ให้เล็ดลอดไปห้องอื่น วิธีไล่กลิ่นออกจาก และวิธีดับกลิ่นที่จะช่วยกำจัดกลิ่นอาหารให้หมดจากห้องของเราเสียที 1. ปิดประตูและหน้าต่างให้มิดชิด - เพราะกลิ่นอาหารสามารถเล็ดลอดไปได้ทุกที่ในคอนโด ก่อนทำอาหารแนะนำให้ปิดประตูและหน้าต่างห้องอื่น ๆ ให้มิดชิดทุกบาน เช่น ห้องนอน ห้องน้ำ และห้องนั่งเล่น 2. เปิดฮู้ดดูดควันช่วยไล่กลิ่น - ควรเปิดฮู้ดดูดควันทิ้งไว้ทุกครั้งขณะทำอาหาร หรือนำพัดลมมาช่วยเป่ากลิ่นออกไป หรือใช้เครื่องฟอกอากาศช่วย แต่อย่าลืมหมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศด้วยนะคะ กลิ่นอาหารถึงจะหมดไปจริง ๆ 3. แช่แข็งของสด ทิ้งของเก่า - เมื่อได้วัตถุดิบสด ๆ มาจากตลาด ควรนไปแช่ตู้เย็นทันที จะได้ไม่ส่งกลิ่นคาวคละคลุ้งไปทั่วทั้งห้อง ส่วนเศษอาหารที่เป็นขยะ ก็อย่าวางไว้ในห้องนาน ๆ ควรนำใส่ถุงพลาสติกแล้วนำออกไปทิ้งทันที 4. ส่งกลิ่นหอมไปสู้ - หากกลิ่นอาหารไม่ยอมออกไป ก็หาเครื่องหอม เช่น เทียนหอม ธูปหอม เตาน้ำมันหอมระเหย มาตั้งไว้ตามมุมต่าง ๆ แทน เพื่อใช้กลิ่นหอมกลบกลิ่นเหม็นให้หมด แต่ถ้าใครไม่อยากเสียเงิน ก็หาสมุนไพร พืชหอม หรือเปลือกส้ม มาต้มกับน้ำเปล่า เพื่อให้กลิ่นระเหยไปทั่วห้องแทนก็ได้ค่ะ 5. ใช้ตัวช่วยดูดกลิ่น - หากใช้กลิ่นหอมกลบกลิ่นเหม็นไม่หมด เปลี่ยนมาใช้ตัวช่วยดูดกลิ่นแทนก็ได้ โดยการนำน้ำส้มสายชู เบกกิ้งโซดา กากกาแฟ หรือถ่านหุงข้าว มาใส่ในถ้วยแล้วเอาไปวางไว้ตามมุมต่าง ๆ ของคอนโดแทน แต่อย่าลืมหมั่นเปลี่ยนอุปกรณ์ด้วยนะคะ เพื่อให้ประสิทธิภาพในการดูดกลิ่นคงที่ 6. ทำความสะอาดครัวหลังใช้เสร็จทันที - เพิ่มความขยันขึ้นอีกนิดก็พิชิตกลิ่นอาหารได้แล้ว ฉะนั้นหลังทำอาหารเสร็จอย่าเพิ่งทิ้งห้องครัวไปไหน รีบล้างและทำความสะอาดให้เรียบร้อย ทั้งเครื่องครัว จาน - ชาม รวมไปถึงเตาและเคาน์เตอร์ครัว เพราะยิ่งปล่อยคราบสกปรกเหล่านี้ทิ้งไว้นาน กลิ่นก็จะอบอวลอยู่ในห้องไม่หายไปสักที 7. ติดตั้งบานเฟี้ยมกั้นกลิ่น - สำหรับห้องสตูดิโอที่ไม่มีผนังหรือประตูกั้นระหว่างห้อง อาจจะใช้เปลี่ยนมาใช้วิธีติดตั้งบานเฟี้ยมแทน ไว้กั้นกลิ่นเข้าห้องขณะทำอาหาร เพราะเมื่อทำอาหารเสร็จก็ค่อยเปิดออกตามเดิม ไม่กินพื้นที่ แถมห้องยังดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นด้วย 8. ใช้หัวหอมกำจัดกลิ่น - รู้หรือไม่ว่ากลิ่นฉุน ๆ ของหัวหอมมีประโยชน์มากนะคะ เพราะหากนำหัวหอมมาสับให้ละเอียด นำไปแช่ในถ้วยน้ำ แล้วเอาไปวางไว้กลางห้องครัว หัวหอมก็จะช่วยดูดกลิ่นและควันจากการทำอาหาร ไม่ให้ฟุ้งกระจายไปทั่วห้องได้ดีเลยล่ะ 9. น้ำส้มสายชูกับขนมปังช่วยดูดกลิ่น - เริ่มจากต้มน้ำเปล่าครึ่งหม้อกับน้ำส้มสายชู 2 ถ้วยตวงจนเดือด จากนั้นนำขนมปังมาชุบลงในน้ำส้มสายชูต้มให้ชุ่มทั้งแผ่น แล้วนำขึ้นมาวางในจาน แล้วตั้งไว้มุมต่าง ๆ ของห้อง ก็ช่วยให้กลิ่นอาหารหายไปได้เหมือนกัน 10. DIY น้ำมันหอมระเหยดับกลิ่น - ใครไม่อยากเสียเงินไปกับการซื้อสเปรย์ดับกลิ่นราคาแพง DIY น้ำมันหอมระเหยใช้เองก็ได้ โดยการผสมเบกกิ้งโซดา 1 ถ้วยตวงกับน้ำมันหอมระเหยกลิ่นที่ชอบ 8 - 12 หยดให้เป็นเนื้อเดียวกัน เทใส่ขวดโหล เจาะรูที่ฝาขวด แล้วนำไปตั้งไว้ตามมุมต่าง ๆ เห็นแล้วใช่ไหนคะว่า การกำจัดกลิ่นอาหารในคอนโดง่ายนิดเดียว สำหรับคนที่อยู่ห้องเช่าในอพาร์ทเมนท์หรือหอพัก ก็สามารถนำวิธีเหล่านี้ไปใช้ได้เหมือนกันนะคะ รับรองว่าไม่เหลือกลิ่นอาหารกวนใจแน่นอน ที่มา : thekitchn, ohmyapt.apartmentratings, wikihow, home.kapook.com
<<
<
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
>
>>
เงินผ่อน
เงินกู้
บาท
ปี
%
คำนวณ
เริ่มใหม่
อัตราผ่อนต่อเดือน
บาท
บาท
ปี
%
การคำนวณนี้เป็นการประมาณยอดเงินกู้ได้สูงสุด 35% ของรายได้สุทธิ*
คำนวณ
เริ่มใหม่
อัตราผ่อนต่อเดือน
บาท
เงินกู้
บาท
Real Asset Application