1. ร้านสระบัว บาย กิน กิน (SRA BUA by KIIN-KIIN) – เป็นร้านอาหารไทยที่เกิดขึ้นจากฝีมือฝรั่งเดนมาร์คคือ เชฟมิชลินสตาร์ เฮนริค แอนเดอร์เซน ผู้เชี่ยวชาญอาหารไทยที่ชาวโลกยกย่อง นำเสนอแบบ Fine Dining ที่หน้าตาดูเป็นสากล แต่เกิดขึ้นมาจากความคิดสร้างสรรค์ที่เชฟใช้เทคนิคการปรุงอาหารไทยด้วยเทคนิคแบบฝรั่งกับไทยผสมผสานกันจากร้านไทยดั้งเดิมของเขาในเดนมาร์ค ซึ่งที่โน่นเชฟต้องสร้างเมนูไทยขึ้นมาภายใต้ข้อจำกัดเรื่องวัตถุดิบไทย ๆ ที่ไม่มีเดนมาร์คแต่ข้อจำกัดนั้นกลับเป็นจุดเริ่มต้นของความคิดสร้างสรรค์ที่ทำให้อาหารไทยแบบของเขาได้รางวัลมิชลินสตาร์ จนในที่สุดก็ได้รับเชิญมาเปิดร้านด้วยคอนเซ็ปต์เดียวกันในเมืองไทย ใครอยากสัมผัสความคิดสร้างสรรค์สุดล้ำ ต้องไปลอง
การเดินทาง : โรงแรมสยามเคมปินสกี้ กรุงเทพฯ ถนนพระรามที่ 1
เบอร์โทร : 02 - 162 - 9007
เว็บไซต์ : www.kempinski.com/en/bangkok/siam-hotel/dining/culinary-highlights/sra-bua-by-kiin-kiin-reinvents-traditional-thai-cuisine/
2. ร้านน้ำ (NAHM) – คนไทยส่วนใหญ่อาจจะไม่รู้ แต่นักชิมระดับโลกรู้จักร้านน้ำ ในฐานะที่เป็นร้านอาหารไทยที่ติดอันดับ 50 ร้านอาหารที่ดีที่สุดในโลก โดยฝีมือเชฟมิชลินสตาร์ เดวิด ทอมป์สัน ผู้หลงใหลในเสน่ห์ของอาหารไทย และได้ทำการศึกษาค้นคว้าหาอาหารไทยดั้งเดิม ทำให้ฝรั่งชิมแล้วชอบใจจนเป็นที่โด่งดัง เมนูของร้านจะเป็นอาหารไทยตำรับดั้งเดิมที่ขุดมาจากก้นครัวของภาคต่าง ๆ นำมาประกอบขึ้นใหม่ด้วยวัตถุดิบชั้นสูง ซึ่งราคาก็สูงตามไป แต่คนอยากชิมมีเยอะ ถ้า เดวิด ทอมป์สัน มาลงครัว ก็จะมีนักชิมนานาชาติจองกันคิวยาวเหยียด
การเดินทาง : โรงแรมเมโทรโพลิแทน ถนนสาทร
เบอร์โทร : 02 - 625 - 3388
เว็บไซต์ : www.comohotels.com/metropolitanbangkok/dining/nahm
3. ร้านบลูเอเลเฟ่นท์ (BLUE ELEPHANT) – ร้านนี้เป็นผลงานเลื่องชื่อของเชฟคนไทย คือมาสเตอร์เชฟนูรอ โซ๊ะมณี สเต็ปเป้ เชฟผู้หญิงไทยเพียงคนเดียวที่ทำอาหารไทยระดับสูงประสบความสำเร็จโด่งดังไกลทั้งในประเทศไทยและระดับโลกด้วยมูลค่ากิจการหลายพันล้านบาท อาหารของเชฟนูรอเป็นสูตรที่คัดสรรมาจากหลากหลายที่มา ทั้งอาหารชาววังไปจนถึงอาหารพื้นถิ่นที่หาชิมได้ยากจากยุคโบราณ ปรุงแบบไทยแท้ แต่ผสมความคิดสร้างสรรค์ลงไปให้เกิดเป็นนวัตกรรมใหม่ ๆ และรสชาติที่ถูกปากทั้งคนไทยรุ่นใหม่และชาวต่างชาติ โดยใช้วัตถุดิบชั้นเลิศจากทั้งในประเทศและของดีจากทั่วโลกมาเสกสรรค์ใส่ความเป็นไทยลงไปอย่างน่าทึ่ง
การเดินทาง : 233 ถนนสาทรใต้ แขวงยานนาวา
เบอร์โทร : 02 - 673 - 9353 - 4
เว็บไซต์ : www.blueelephant.com/bangkok/
4. ร้านศาลาริมน้ำ (SALA RIM NAM) – แม้จะเปิดมานานแล้ว แต่ถ้าให้นึกถึงร้านอาหารไทยขวัญใจชาวโลกที่คงความหรูอลังการมาตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ด้วยเมนูที่สร้างสรรค์อย่างวิจิตรบรรจง คุณภาพวัตถุดิบเป็นเลิศ บรรยากาศ และการบริการที่ให้ความรู้สึกถึงความสูงส่งดีงามในวัฒนธรรมไทยอย่างเสมอต้นเสมอปลายภายใต้แบรนด์โอเรียนเต็ล ซึ่งการันตีคุณภาพและความประทับใจสร้างความภูมิใจให้ประเทศชาติในฐานะโรงแรมห้าดาวที่ดีที่สุดมานานกว่าร้อยปี เมื่อใดต้องรับรองแขกต่างชาติที่นี่ย่อมไม่มีคำว่าผิดหวัง ส่วนราคาก็สมกับคุณภาพ
การเดินทาง : โรงแรมโอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ
เบอร์โทร : 02 - 659 - 9000
เว็บไซต์ : www.mandarinoriental.com/bangkok/fine-dining/sala-rim-naam/
5. ร้านข้าว (KHAO) – ร้านอาหารไทยหรูเท่ที่เป็นขวัญใจบุคคลระดับวีไอพี เพราะมีความกล้าหาญชาญชัยที่จะขายเพียงวันละ 1 โต๊ะเท่านั้น แต่คิวจองนั้นยาวเหยียด ด้วยความมั่นใจในฝีมือของ เชฟวิชิต มุกุระ เชฟอาหารไทยระดับตำนานที่สร้างชื่อเสียงให้กับร้านอาหารไทยประจำโรงแรมโอเรียนเต็ลมาเกือบสามสิบปี ก่อนที่จะมาเปิดธุรกิจของตัวเอง ซึ่งไม่ใช่แค่ทำอาหารไทยแบบวิเศษสุดด้วยประสบการณ์ที่สั่งสมมาทั้งชีวิต แต่เชฟยังจริงจังกับคุณภาพวัตถุดิบอย่างที่สุด ถึงขั้นทำนาปลูกข้าวเอง เรื่องรสชาติและความงดงามโดดเด่นไม่ต้องห่วง ส่วนราคาก็ตามคุณภาพ
การเดินทาง : ซอยสุขุมวิท 51
เบอร์โทร : 098 - 829 - 8878
เว็บไซต์ : www.facebook.com/khaogroup/
6. ร้านโบ.ลาน (BO.LAN) – ใครอยากชิมอาหารไทยแท้ที่ว่าแท้สุด ๆ ต้องมาร้านนี้ เพราะจุดเด่นของเขาคือความเชื่อและอุดมคติในการทำอาหารโดยแน่วแน่ ที่จะเลือกใช้วัตถุดิบและเครื่องปรุงรสที่อยู่ในอาณาบริเวณของประเทศไทยเท่านั้น แต่ละเมนูถูกสร้างสรรค์ขึ้นภายใต้ความหลงใหลในวัตถุดิบที่เป็นผลผลิตทางการเกษตรพื้นบ้านปลอดสารพิษ เป็นร้านที่มีชื่อเสียงระดับอินเตอร์และคนไทยก็ชอบกันมาก นอกจากจะได้อร่อยแบบไทยแล้วยังดีต่อสุขภาพอีกด้วย
การเดินทาง : 24 ซอยสุขุมวิท 53
เบอร์โทร : 02 - 260 - 2961 - 2, 086 - 074 - 5672
เว็บไซต์ : www.Bolan.co.th
7. ร้านโอชา (OSHA) – เป็นร้านอาหารไทยสไตล์โมเดิร์นที่ติดอันดับร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ซึ่งก่อนจะมามีสาขาในบ้านเราโอชาเป็นร้านอาหารไทยชื่อดังในอเมริกา ที่เปิดมานานกว่า 20 ปี มีสาขามากมายในซานฟรานซิสโก เสิร์ฟอาหารที่สร้างสรรค์ขึ้นมาในแบบ molecular แต่ละจานจะมีรูปโฉมและรสชาติที่งดงามชวนให้ตื่นเต้น แต่คงไว้ซึ่งเสน่ห์ความเป็นไทย ความเก๋าของเขาคือการผสมผสานศาสตร์และศิลป์อย่างลงตัวทั้งในเรื่อง รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัสจากอุณหภูมิที่แตกต่างทำให้ประสบการณ์ชิมอาหารนั้นแสนวิเศษ
การเดินทาง : 99 ถนนวิทยุ แขวงลุมพินี เขตปทุมวัน
เบอร์โทร : 02 - 256 - 6555
เว็บไซต์ : www.oshabangkok.com/osharestaurant/
8. ร้านเรือนมัลลิการ์ (RUEN MALLIKA) – ร้านอาหารไทยสูตรดั้งเดิมที่ตั้งใจนำเสนอความเป็นไทยดั้งเดิมทั้งรสชาติและหน้าตาอาหารที่มีตั้งแต่อาหารขั้นสูงตำรับชาววังเรื่อยไปจนถึงเมนูเด่นต้นตำรับพื้นบ้านแท้ ๆ ของแต่ละท้องถิ่น ด้วยหน้าตาและรสชาติอาหารไทยแบบคลาสสิค ก็จะเป็นที่ถูกใจทั้งนักชิมชาวไทยและนักชิมนานาชาติที่ปรารถนาจะเข้าถึงความเป็นไทยในแบบโบราณ เหมาะแก่การพาแขกผู้มีเกียรติชาวต่างชาติมาเลี้ยงรับรองแบบที่ให้ได้อารมณ์ไทย ๆ แบบไร้ข้อสงสัย เพราะนอกจากอาหาร สถานที่และบริการก็เป็นไปในคอนเซ็ปต์เดียวกัน
การเดินทาง : 189 สุขุมวิท 22 คลองเตย
เบอร์โทร : 02 - 663 - 3211
เว็บไซต์ : www.ruenmallika.com
9. ร้านบ้านจิม ทอมป์สัน (JIM THOMPSON RESTAURANT&WINE BAR) – ร้านอาหารไทยที่สร้างสรรค์เมนูไทยแท้หน้าตาสวยแจ่มรสชาติเลิศ ด้วยสูตรไทยต้นตำรับที่ฝรั่งหลงใหลในคอนเซ็ปต์เดียวกับสินค้าและบริการภายใต้แบรนด์ จิม ทอมป์สัน คือมีทั้งความเก๋ร่วมสมัย และคุณค่าทางวัฒนธรรมในแบบไทยผสมผสานกันได้อย่างลงตัว นอกจากจะเป็นร้านอาหารที่พาแขกต่างชาติไปได้ไม่เสียฟอร์มแล้วยังเป็นสถานที่จัดงานเลี้ยงสุดหรูอารมณ์ไทย ๆ ในบรรยากาศบ้านไทยโบราณที่แสนงดงามขรึมขลังอลังการอีกด้วย
การเดินทาง : 6/1 ซอยสุขเกษม 2 ถนนระราม 1
เบอร์โทร : 02 - 612 - 3601
เว็บไซต์ : www.facebook.com/jimthompsonrestaurants.thailand/
10. ร้านบ้านขนิษฐา (BAAN KHANITHA) – แม้จะไม่ได้เสิร์ฟอาหารแบบคลานเข่ามาในบรรยากาศเรือนไทยโบราณหรือวังเก่า แต่พิสูจน์ความเจ๋งด้วยรางวัลร้านอาหารไทยที่ดีที่สุดในกรุงเทพฯ ที่ติดอันดับต่อเนื่องยาวนานมานานหลายปี จุดเด่นของร้านนี้คือรสชาติอาหารที่ได้รับความยอมรับว่าเป็นเลิศ ชัดเจนในความเป็นไทยสูตรต้นตำรับ ใช้วัตถุดิบดีเยี่ยม ประสบความสำเร็จจนขยายได้หลายสาขาและมีหลายบรรยากาศ ทั้งแบบบ้านไม้ ๆ และแบบร่วมสมัย รวมถึงมีเสิร์ฟแบบบนเรือให้ล่องชมเจ้าพระยาไปชิมอาหารไทยไปสำราญใจ ใครชอบบรรยากาศแบบไหนก็ไปสาขานั้นตามสะดวก
การเดินทาง : สาขาสาทร 69 ถนนสาทรใต้
เบอร์โทร : 02 - 675 - 4202
เว็บไซต์ : www.baan-khanitha.com
ใครที่คิดว่าไลฟ์สไตล์ของคนที่อยู่คอนโดจะต้องลงเอยด้วยการฝากท้องไว้กับร้านอาหาร หรืออาหารสำเร็จรูปที่ต้องหิ้ว และสั่งซื้อมากินเป็นประจำ จากการที่ครัวในคอนโดส่วนมากจะมีพื้นที่ค่อนข้างจำกัด แต่หากในครัวของคุณมีของใช้จำเป็น 10 ชิ้นนี้เตรียมพร้อมไว้สำหรับการใช้งาน ก็สามารถสนุกกับอาหารมื้ออร่อยจากครัวคอนโดได้ไม่แพ้ครัวบ้าน หรือร้านดี ๆ เลยทีเดียว
เครื่องดูดควัน – เป็นอุปกรณ์พื้นฐานที่ขาดไม่ได้เพื่อการระบายอากาศที่ดีให้กับครัวของคุณ การติดตั้งเครื่องดูดควันไม่ใช่สิ่งฟุ่มเฟือย แต่เป็นสิ่งจำเป็นที่จะทำให้การทำอาหารในคอนโดไม่เป็นต้นเหตุของกลิ่นรบกวน ช่วยให้คุณสนุกกับเมนูโปรดได้โดยไม่ต้องห่วงว่าจะมีกลิ่นคลุ้งไปทั่วห้อง และไม่รบกวนเพื่อนบ้านห้องข้าง ๆ
เครื่องกรองน้ำ – น้ำสะอาดสำหรับดื่มกินเป็นสิ่งที่ต้องใช้ทุกวัน คงไม่ดีแน่หากคุณต้องซื้อน้ำเป็นขวดมาใช้ตลอด นอกจากจะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายมากในระยะยาว เป็นภาระในการซื้อหา ยังเป็นต้นเหตุของการสร้างขยะพลาสติกจากขวดน้ำดื่มจำนวนมากที่ต้องทิ้งไปในแต่ละวัน ควรติดตั้งเครื่องกรองน้ำที่ได้มาตรฐานสำหรับน้ำดื่มน่าจะดีกว่า โดยไม่ลืมที่จะเปลี่ยนและดูแลรักษาอุปกรณ์ตามกำหนดระยะเวลาที่เหมาะสม เพื่อการใช้งานที่มีประสิทธิภาพ
ตู้เย็นขนาดใหญ่ – ไม่ว่าครัวของคุณจะมินิมัลแค่ไหน ตู้เย็นเป็นอุปกรณ์หลักที่ต้องคิดถึงเป็นลำดับแรก ๆ เสมอ และถ้าคิดจะซื้อตู้เย็น จงจำใส่ใจไว้เสมอว่า ต้องซื้อตู้เย็นขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่พื้นที่ครัวของคุณจะวางได้อย่างเหมาะสม อย่าซื้อตู้เย็นขนาดจิ๋ว ๆ มาใช้เป็นอันขาด เพราะมันจะไม่เคยพอ สำหรับชีวิตดี ๆ ที่ต้องการจะมีอาหารการกินบริบูรณ์ เมื่อคุณมีตู้เย็นที่ใส่ของได้ครบตามที่อยากจะใช้งาน การทำอาหารกินเองก็จะเป็นเรื่องง่ายและสนุก
เตา – คุณอาจจะเริ่มต้นด้วยการมีเตาไมโครเวฟสำหรับอุ่นหรือทำอาหารง่าย ๆ ตามมาด้วยเตาไฟฟ้าประเภทที่ให้ความร้อนได้โดยใช้คลื่นโดยไม่มีเปลวไฟ และถ้าคุณชอบการทำอาหารมาก โดยเฉพาะอาหารสุขภาพ ประเภทที่ไม่ต้องทอดหรือผัด คุณก็ควรมีเตาอบ เพราะเตาต่าง ๆ เหล่านี้จะทำให้คุณมีตัวเลือกสำหรับการทำอาหารที่หลากหลาย โดยไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่มากมาย และเตาดี ๆ สมัยนี้ก็ราคาไม่แพงเลย
เครื่องปั่นและบดอาหาร - เป็นอุปกรณ์ที่ช่วยทุ่นแรงและลดความซับซ้อน ขจัดขั้นตอนที่วุ่นวายเลอะเทอะในการเตรียมอาหารไปได้มากโข คุณสามารถทำอาหารง่าย ๆ ได้เอง ตั้งแต่เครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ปั่น ผักปั่น สมูทตี้ ทำขนมหวาน ซอส หรือแม้แต่เครื่องแกง โดยไม่ต้องเสียเวลา หั่น ซอย คั้น โขลก ตำ ซึ่งนอกจากจะเหนื่อยแรงแล้วยังทำให้เกิดเสียงดัง ด้วยการปั่นหรือบดด้วยเครื่องที่แสนสะดวก ทำให้คุณเสกสรรเมนูเด็ดได้หลากหลายในพื้นที่ครัวขนาดกะทัดรัดในคอนโด
ตู้เก็บอาหารแห้ง - นอกจากมีตู้เย็นไว้เก็บของสดแล้ว ตู้เก็บอาหารแห้งก็สำคัญ เพื่อที่คุณจะได้เก็บอาหารกระป๋อง ของแห้ง เครื่องปรุง อาหารเส้น อาหารกึ่งสำเร็จรูปต่าง ๆ ให้มีพร้อมกินพร้อมใช้ทุกเมื่อสำหรับการทำอาหาร
ตู้เก็บภาชนะ – เพื่อให้ครัวของคุณเป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม และมีภาชนะที่จำเป็นเอาไว้ใช้พร้อมสรรพ ควรมีตู้หรือชั้นวางที่มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บภาชนะตามประเภทของการใช้งาน โดยคำนึงถึงความสะดวกทั้งการจัดเก็บและการหยิบมาใช้
ตู้เก็บอุปกรณ์เครื่องใช้ในการทำอาหาร - อุปกรณ์เครื่องใช้ที่ครบมือจะทำให้การทำอาหารเป็นเรื่องง่ายและสนุก แต่สำหรับครัวคอนโดซึ่งมีพื้นที่จำกัด คุณควรเตรียมตู้ที่เหมาะสมสำหรับเครื่องใช้ที่จำเป็นสำหรับการทำอาหารให้สะดวกต่อการใช้งาน
ตู้เก็บของใช้จิปาถะ – สำหรับคนที่เพิ่งเคยมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเอง คุณอาจคิดไม่ถึงว่าในชีวิตคนเราจะมีของใช้จิปาถะกระจุกกระจิกเต็มไปหมด เช่น กระดาษชำระ น้ำยาล้างจาน ผงซักฟอก ผ้าเช็ดมือ ฯลฯ เพื่อความสวยงามและเป็นระเบียบเรียบร้อย อย่าลืมจัดหาตู้สำหรับเก็บของใช้จิปาถะเอาไว้ให้เพียงพอเสมอ
ถังใส่ขยะเปียก - เพื่อให้ครัวและบรรยากาศโดยรวมของพื้นที่พักอาศัยสะอาด ไม่มีกลิ่นหมักหมม ครัวของคุณควรมีถังใส่ขยะเปียกแยกส่วนจากขยะแห้ง และขยะอื่น ๆ ภายในห้อง เพื่อที่คุณจะสามารถแยกเอาขยะเปียก ที่เป็นของเหลือใช้จากการปรุงอาหาร และเศษอาหาร เอาไปกำจัดทิ้งได้ทุกวัน ไม่ให้มีของเปียกชื้นตกค้างในห้อง หรือถ้าคุณจะทำให้ได้มาตรฐานแบบประเทศที่เขาพัฒนาแล้ว นอกจากขยะเปียก ก็ควรแยกขยะที่รีไซเคิลได้ และรีไซเคิลไม่ได้ออกจากกันด้วย
เมื่อคุณเตรียมสิ่งที่จำเป็นขั้นพื้นฐานเหล่านี้ไว้ในครัวคอนโดแล้ว การทำอาหารในคอนโดก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป ส่วนจะอร่อยหรือไม่นั้น ก็อยู่ที่ฝีมือของคุณ
------------------------------------------
ชมข้อมูลบ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม โฮมออฟฟิศ คอนโดมิเนียม เพิ่มเติมได้ที่
Website : www.realasset.co.th
Facebook : www.facebook.com/RealAssetDevelopment
Instagram : www.instagram.com/realasset.development/
LINE@ : @realasset
Call Center : 1232