เพราะชีวิตคู่เป็นเรื่องละเอียดอ่อน การที่คนสองคนมาใช้ชีวิตร่วมกันย่อมมีหลายสิ่งที่ต้องปรับตัวเข้าหากัน การเตรียมบ้านเป็นเรือนหอจึงมีรายละเอียดสำคัญมากมายที่ไม่ควรมองข้าม การเอาใจใส่ในเรื่องเล็กๆเพื่ออีกฝ่าย คือการแสดงความรักอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้ทุกตารางนิ้วของบ้าน ดูอบอุ่นไปด้วยความรักและช่วยเสริมสร้างความสุขในชีวิตคู่
1. กล่องรับจดหมาย – อาจจะเป็นสิ่งเล็กน้อยที่หลายคนคิดไม่ถึง แต่การย้ายเข้ามาอยู่ร่วมบ้านกันของคนสองคนย่อมหมายถึงการเปลี่ยนแปลงที่อยู่ และสัญลักษณ์ที่สุดแสนโรแมนติกของการเป็นเจ้าของที่อยู่ใหม่ร่วมกัน คือกล่องรับจดหมายใบใหม่ ที่เพียงพอสำหรับเรื่องราวการติดต่อในชีวิตของคนสองคน และพร้อมที่จะขยายเป็นครอบครัวที่ใหญ่ขึ้นในอนาคต
2. ที่จอดรถ – เหตุผลส่วนใหญ่ที่คนทะเลาะกันมักเป็นเรื่องเล็กๆ เชื่อเถอะว่า พื้นที่จอดรถอันสะดวกสบายและเพียงพอสำหรับคุณและคู่ชีวิตจะช่วยลดปัญหาในการใช้ชีวิตลงไปได้มาก ถ้าจะเตรียมบ้านเป็นเรือนหอ ควรเตรียมที่จอดรถดี ๆ มีหลังคาคลุมกันแดดฝนไว้อย่างน้อยสักสองคัน
3. พื้นที่นอกบ้านและสวน – พื้นที่นอกบ้านไม่ว่าจะเป็นสวน สนาม หรือระเบียง ที่ออกแบบและจัดเตรียมให้ผู้อยู่อาศัยสามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพจะช่วยเพิ่มพื้นที่ในการใช้ชีวิตให้มีความหลากหลายและผ่อนคลายมากขึ้นกว่าการอุดอู้อยู่แต่ภายใน หากคุณมีพื้นที่สำหรับจัดสวนสวย ๆ ก็จะยิ่งทำให้ชีวิตคู่ของคุณสวยงามยิ่งขึ้น ทั้งตอนที่ออกมาหย่อนใจนอกบ้าน และตอนที่ทอดสายตาเห็นวิวดีๆออกมาจากในบ้าน
4. ห้องรับแขกและห้องนั่งเล่น – หากคุณหรือคู่ชีวิตของคุณเป็นคนชอบสังคม และมีพื้นที่บ้านเพียงพอ การมีห้องรับแขกแยกส่วนออกมาจากห้องนั่งเล่นจะช่วยรักษาความเป็นส่วนตัวของแต่ละคนได้มาก ในกรณีที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีเพื่อนฝูงหรือมีแขกมาเยือนก็จะไม่เป็นการรบกวนอีกคนหนึ่ง ส่วนห้องนั่งเล่นนั้นก็เป็นพื้นที่สำคัญที่คุณจะมีความสุขและเป็นส่วนตัวได้เต็มที่ เมื่อคุณและคู่ของคุณต้องการใช้เวลาพักผ่อนดี ๆ ร่วมกัน ควรจะมีความสะดวกสบายเตรียมไว้พร้อมสรรพ ตามรสนิยม และกิจกรรมที่ชื่นชอบทั้งของคุณและคนที่คุณรัก ไม่ว่าจะเป็นเฟอร์นิเจอร์สำหรับนั่งเล่นนอนเล่นให้เพลินใจ ชุดโฮมเธียเตอร์สำหรับคนชอบดูหนังฟังเพลง ชั้นหนังสือสำหรับคนรักการอ่าน อย่าลืมติดรูปคู่เอาไว้บนผนังและใส่กรอบสวย ๆ ไว้ชื่นชมด้วยกันล่ะ
5. ห้องครัวและห้องรับประทานอาหาร - เรื่องกินเป็นเรื่องใหญ่ จงมั่นใจว่าคุณมีครัวและพื้นที่รับประทานอาหารที่ตอบสนองรูปแบบการกินของคนสองคนได้เต็มที่ เพราะคนเราชอบกินไม่เหมือนกัน หากมีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งขาดความสุขในเรื่องปากท้องก็ย่อมจะเสี่ยงต่อการกระทบกระทั่ง และขอบอกว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องเล่น ๆ นอกจากมีพื้นที่เพียงพอ ใช้งานได้ดี และทำความสะอาดง่ายแล้ว อย่าลืมดูแลความอุดมสมบูรณ์ของห้องครัวและตู้เย็นของคุณให้พร้อมบริบูรณ์อยู่เสมอ
6. ห้องนอน – ถ้ามองข้ามโหมดโรแมนติกของชีวิตคู่ไปสู่โหมดความเป็นจริง การนอนเป็นพฤติกรรมตามธรรมชาติของมนุษย์ ซึ่งแต่ละคนจะมีนิสัยการนอนที่แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกาย ความเคยชิน การเลี้ยงดู และความชอบส่วนตัว การจัดห้องนอนให้คนสองคนหลับสบายไปด้วยกัน จะต้องเริ่มจากการเปิดใจพูดคุยกันถึงนิสัยในการนอน บางคนชอบนอนดึก บางคนชอบนอนหัวค่ำ บางคนชอบอ่านหนังสือ บางคนชอบดูทีวี บางคนชอบห้องมืดทึบ บางคนชอบไฟสว่างๆ บางคนชอบเตียงแข็ง บางคนชอบเตียงนุ่ม บางคนนอนกรน บางคนนอนดิ้น ฯลฯ สารพันรายละเอียดของการนอนนี้คือองค์ประกอบความสุขของชีวิต จึงควรหาจุดสมดุลในการใช้พื้นที่ห้องนอนและเวลานอนร่วมกันให้ได้อย่างที่ชีวิตต้องการจริงๆ อย่าหลงงมงายไปกับภาพสวย ๆ ในหนังหรือในโฆษณาทีวี เพื่อที่คุณจะได้ช่วยกันจัดสภาพแวดล้อมของการนอนให้หลับได้อย่างเป็นสุขด้วยกันทั้งคู่
7. พื้นที่เก็บของ – ข้าวของที่ติดตัวมาของแต่ละคน บวกกับของใช้ต่างๆที่ซื้อกันเข้ามาเพิ่ม ล้วนต้องการพื้นที่จัดเก็บให้เป็นระเบียบเรียบร้อยสวยงาม จงวางแผนเรื่องการซื้อของและพื้นที่เก็บของให้รอบคอบ เพราะนานวันไปคุณก็จะยิ่งมีสิ่งของต่างๆเพิ่มขึ้น ในการจัดเก็บสิ่งใดที่เป็นของส่วนกลาง ควรคิดถึงความสะดวกในการหยิบมาใช้ของอีกฝ่ายหนึ่งด้วย โดยให้ความสำคัญกับการติดป้ายเขียนบอกว่าอะไรอยู่ที่ไหน หรือตกลงกันไว้ให้ดีว่า คุณมีนโยบายในการบริหารและจัดเก็บสิ่งของเครื่องใช้ร่วมกันอย่างไร เพราะเวลาหาของไม่เจอนี่คือเหตุผลในการทะเลาะกันอันดับต้นๆเลยเชียว ไม่เชื่ออย่าลบหลู่
8. ห้องน้ำ ห้องส้วม และห้องแต่งตัว – ในวันที่คุณใช้ชีวิตคนเดียว พื้นที่เหล่านี้เคยเป็นพื้นที่ส่วนตัวที่คุณมีความสุขและหวงแหน เมื่อต้องมาใช้ชีวิตร่วมกัน หากบ้านของคุณมีพื้นที่เพียงพอที่จะจัดแบ่งให้แต่ละคนมีพื้นที่ของการใช้ห้องน้ำห้องส้วมและห้องแต่งตัวแบบแยกส่วนก็ควรทำอย่างยิ่ง แม้จะฟังดูฟุ่มเฟือยไปหน่อย แต่เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้คุณไม่สูญเสียความเป็นส่วนตัวในระยะยาว เพราะช่วงข้าวใหม่ปลามัน อาจจะโรแมนติกดีอยู่หรอกที่ได้แชร์พื้นที่เหล่านี้ด้วยกัน หรือกระทั่งอาบน้ำด้วยกัน (แหม...มันช่างเซ็กซี่อย่าบอกใคร) แต่ขอบอกเลยว่า พออยู่กันนาน ๆ ไปคุณอาจจะอยากได้ความเป็นส่วนตัวในห้องน้ำมากกว่าช่อดอกไม้วันวาเลนไทน์เสียอีก…เชื่อเถอะ
9. พื้นที่ทำงาน – ไม่ใช่เรื่องแปลกหากคุณอาจจะมีบางวันที่ต้องหอบงานมาทำต่อคิดต่อที่บ้าน หรือบางคนอาจจะทำงานอยู่กับบ้าน เป็นแบบ Work from home ซึ่งสมัยนี้ก็มีเยอะ พื้นที่ในการทำงานจึงมีความสำคัญ ควรเตรียมไว้ให้เป็นกิจลักษณะ มีเฟอร์นิเจอร์ครบๆ และมีอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม แยกส่วนจากห้องนอนหรือห้องนั่งเล่นให้มีระยะห่างพอสมควร แต่ก็ไม่ถึงกับตัดขาดจากกัน เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีสมาธิและไม่ต้องอยู่ไกลจากสายตาของคนที่คุณรัก
10. พื้นที่สำหรับความความคิดสร้างสรรค์ – แม้คุณจะรักกันปานจะกลืนกิน แต่เป็นธรรมดาที่ทุกคนย่อมจะมีโลกส่วนตัวและปรารถนาพื้นที่สำหรับการใช้เวลาว่างตามลำพังบ้าง เพื่อปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการให้โลดแล่น ในมุมโปรดที่คุณและเขาสามารถแยกไปอยู่ตามลำพังแล้วรู้สึกสงบสบายใจในเวลาที่ต้องการอยู่กับตัวเอง หรือทำงานอดิเรกที่รัก (เรียกว่าเป็นมุมที่คุณ ‘อยู่คนเดียวด้วยกัน’ เหมือนเพลงพี่เบิร์ดนั่นไง) หากบ้านของคุณมีพื้นที่ให้แต่ละคนได้มีมุมสร้างสรรค์ หรือพื้นที่สำหรับโลกส่วนตัวอย่างพอเหมาะ ทั้งคุณและคนที่คุณรักก็จะไม่ต้องทิ้งบ้านของตัวเองออกไปหาความสุขที่ไหนอีก เพราะอยู่บ้านด้วยกันนี่แหละ...สุขสุด ๆ แล้ว